เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 6 ซึ่งก็คือ คุณชื่อ ธัชมน นามสกุล ศรีแก่นจันทร์
ขออภัย อาจารย์เอกค่ะ ...เป็นนักเรียนโดดร่มชั่วโมงท้าย ๆ เลยนึกว่าได้ ม.ส.(หมดสิทธิ์สอบ) ซะแล้ววววว....แต่เมื่อท่านอาจารย์เอกเมตตา...อนุญาตให้ส่งการบ้านได้ ..ขอส่งการบ้านเท่าที่ได้ทำตามนี้ค่ะ.....
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายมาก ๆ เลยค่ะ รู้สึกถึงลมหายใจที่เป็นลมเย็นแผ่ว ๆ สบาย ๆ พอหายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องแฟบ รู้สึกได้ผ่อนคลายจริง ๆ ตอนที่เริ่มฝึกยังไม่กลั้นหายใจ 5 วินาที รู้สึกแค่สบายเฉย ๆ แต่พอเริ่มกลั้นหายใจ 5วินาทีตอนนี้รู้สึกว่าตอนที่หายใจเข้า ท้องพองออกจริง ๆ ตอนที่หายใจออกท้องแฟบ ก็แฟบจริง ๆ ในความรู้สึกเหมือนกับจะแฟบติดสันหลังเลย
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบ
พอเริ่มฝึกกลั้นหายใจนานขึ้นเป็น 8 วินาที จะรู้สึกถึงร่างกายตัวเองว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ บางส่วนก็กระตุกเบา ๆ
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์
ตอนที่ฝึกจับพลังจากหินกายสิทธิ์ ครั้งแรกยืนจับก้อนหินด้วยมือทั้งสองข้างและสายตาจับจ้องไปที่หลวงปู่นั่งดวงที่ตั้งอยู่ตรงหน้า รู้สึกเลยว่ามีกระแสพลังงานบางอย่างวิ่งผ่านฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมา มีความรู้สึกตื้นตันบอกไม่ถูก รู้สึกว่าอยากกระพริบตาถี่ ๆ และมีความสุขมาก (ความรู้สึกนี้วิ่งจากฝ่ามือขึ้นมาที่แขนทั้งสองข้างไปที่ไหล่และศรีษะจนถึงกลางกระหม่อม) พอครั้งที่สอง ฝึกจับพลังจากหินกายสิทธิ์โดยคุกเข่าลง ทำให้องค์หลวงปู่อยู่ระดับสายตา ครั้งนี้ก็ทำเหมือนครั้งแรก คือจับที่ก้อนหินด้วยมือทั้งสองข้าง และหายใจเข้าออกยาว ๆ ทำใจว่าง ๆ เพ่งมองที่หลวงปู่ ปรากฏว่ารู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกมากอย่างบอกไม่ถูก แล้วเกิดความรู้สึกกระพริบตาถี่ ๆ เหมือนครั้งแรก แต่ตอนนี้ช่วงที่กระพริบตานั้นเห็นองค์หลวงปู่นั่งดวงเป็นองค์สว่างสีขาว
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ
ช่วงนี้ความรู้สึกว่ามีคลื่นบางอย่างยืดหยุ่นอยู่ระหว่างฝ่ามือ คล้าย ๆ อีลาสติกหรือหนังสติกที่ยืดหยุ่นอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง แต่ความรู้สึกไม่ชัดถึงขนาดว่าเป็นลูกบอลหรืออะไร
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม
ในช่วงนี้ อาจารย์เอกให้หงายมือซ้ายขึ้นและคว่ำมือขวาลง ตอนที่ถ่ายพลังเลยขอบารมีหลวงปู่ถ่ายพลังผ่านกระหม่อมลงมาที่ฝ่ามือข้างขวาและให้ไหลถ่ายเทไปที่คนทางขวาเรื่อยไปเป็นวงกลม ปรากฏว่าความรู้สึกของตนเองยังไม่ชัดว่ามีพลังผ่านมาหรือไม่
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว
ช่วงที่จับพลังจากหินต่อกันเป็นแถวนี้ ความรู้สึกยังไม่ชัดว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รู้สึกเพียงว่ามีพลังงานผ่านฝ่ามือที่เกาะบ่าคนข้างหน้าเข้ามาเท่านั้น
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น
ช่วงที่ถ่ายพลังให้คนอื่น ความรู้สึกยังไม่ชัดนักว่ามีพลังส่งออกไปหรือไม่ รู้สึกเพียงว่าคันยุบยิบที่บริเวณหน้าผากตรงกลางระหว่างคิ้ว
แต่พอถึงช่วงรับพลังจากคนอื่น รู้สึกดีมาก ๆ รู้สึกเย็นที่กลางอก เย็นและว่างอย่างบอกไม่ถูกรู้สึกแต่ว่าสบาย ๆ มาก ๆ ในขณะที่หลับตารับพลังอยู่บางครั้งก็เห็นแสงสีม่วงอ่อน ๆ บ้างสีขาวบ้าง
8. -10 แหะ ๆ ช่วงหลังจากนี้โดดเรียนไปปฏิบัติภารกิจเลยมิได้ฝึกค่ะ
ความรู้สึกเมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว
รู้สึกว่าการรับความรู้สึก ต่าง ๆ แตกต่างจากตอนแรกมาก การสัมผัสพลังงานใด ๆ ก็รู้สึกว่าแจ่มชัดขึ้น เวลาจับพระเครื่องหรือผ้ายันต์ แค่สัมผัสก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่ส่งผ่านเข้ามา
อ้อ ! ช่วงที่โดดเรียนไปช่วยสกรีนผ้ายันต์ที่ ม.ราชมงคล ธัญบุรี ได้นำความรู้ที่เพิ่งฝึกรับ/ส่งพลัง มาเป็นประโยชน์ตอนอธิษฐานจิตขอบารมีหลวงปู่ประสิทธิ์ผ้ายันต์ด้วยค่ะเป็นนักเรียนหลังห้อง...ทำการบ้านได้เท่านี้ หวังว่าคุณครูเมตตาตรวจการบ้านให้นะคะ
รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับแก้วจักรพรรดิ์,การปฎิบัติสมาธิ และ ,ตรวจพลังพระเครื่องด้วยแพนดูลั่มพลังจิต
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง5-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 5 ซึ่งก็คือ นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบ
ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ ในครั้งแรกจะตัองปรับการหายใจใหม่ให้ถูกต้อง โดยหายใจเข้าท้องป่อง-หายใจออกท้องแฟบ จากการที่มัวกังวลว่าหายใจถูกต้องมั้ยก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิ แต่พอปรับการหายใจได้ก็จะสงบ นิ่ง รู้สึกตัวเบาๆ รู้สึกเย็นที่ฝ่ามือข้างซ้าย ส่วนข้างขวาจะอุ่นๆ เล็กน้อย รู้สึกเหมือนมีลูกบอลกลม ๆ บนฝ่ามือ สว่างพอสมควร
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบ
ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือ ลูกบอลกลม ๆ บนฝ่ามือ สว่างมากขึ้นขยายรัศมีออกมาคลุมทั้งฝ่ามือเลยข้อมือขึ้นมาเล็กน้อย มีพลังงานไหลตามแขนขึ้นมาที่หัวไหล่เวลาที่หายใจเข้า
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์
ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ รู้สึกมีพลังงานจากหลวงปู่ดู่พุ่งมา ๒ สาย สายหนึ่งเข้ามาที่ตัวเรา และอีกสายพุ่งมาที่ก้อนหินวิ่งขึ้นมาตามฝ่ามือ ไหลไปตามแขนเข้าสู่ตัวและผ่านออกไปข้างหลังพลังงานที่เข้ามารู้สึกพุ่งมาแบบเป็นแผ่นเร็วมากเข้าสู่ตัวเราและผ่านออกไปข้างหลัง (แรงและเร็วแบบทำเอาเซไปด้านหลัง)ความรู้สึกอุ่น ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ
ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ ลูกบอลในฝ่ามือจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อหายใจเข้า เมื่อผลักฝ่ามือเข้าหากันจะรู้สึกถึงแรงต้านออก หยุ่นๆ คล้ายกับมีลูกบอลยางอยู่ในมือ มีความร้อน มีแสงสว่างมาก โดยเฉพาะบริเวณตรงกลางลูกบอลจะสว่างจ้ามากกว่าขอบด้านนอก
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม
รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ มือซ้ายหงายวางบนหัวเข่ารับมือขวาของเพื่อนที่นั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเรา มือขวาวางบนมือซ้ายของเพื่อนที่นั่งทางขวามือ วางมือกันแบบสบาย ๆ รู้สึกถึงพลังงานเป็นกระแสเหมือนสายน้ำไหลจากมือซ้ายเข้ามาที่ตัวเราและไหลออกไปทางมือขวา ไหลผ่านเข้าเป็นสายต่อเนื่องแบบเย็นๆ สบายๆ ความเร็วปานกลาง ขณะไหลออกจะอุ่นๆ ความเร็วเท่าๆ กัน
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว
อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ การไหลเข้าของพลังงานแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ที่อยู่ด้านหน้าสุด (ผู้ที่จับก้อนหิน) บางคนกระแสจะแรงมาก บางคนกระแสละเอียด บางคนกระแสเย็นสบายๆ บางคนกระแสจะร้อนมากจนแสบร้อนจากมือไหลไปสู้แขนออกทางด้านหลัง ในตัวจะร้อนมากๆ ความเร็วในการไหลผ่านก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จับก้อนหิน
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น
แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ การส่งพลังงานจะเห็นเป็นแสงสีทองพุ่งออกไปคลุมทั้งตัวผู้ที่รับพลัง ตัวผู้รับพลังจะสว่างมากการรับพลังจะเห็นเป็นแสงขาวพุ่งมาที่ตัว คลุมทั้งตัว กระแสเย็นๆ เบา สบาย
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น
แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ แต่ละคนจะมีแสงออร่าที่แตกต่างกัน บางคนจะเห็นเป็นรูปแบบเดิมเหมือนตัวเอง บางคนเห็นเป็นตัวเองแต่มีชฎายอดแหลมอยู่บนศรีษะ แสงสว่างของแต่ละคนจะต่างกันสว่างมากน้อยไม่เท่ากัน
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง
ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ ตอนนี้เริ่มมึนแล้ว รู้สึกล้ามาก..สมาธิไม่ดี..ไม่เห็นอะไรเลยเห็นแต่ตัวเองในกระจกตอนนี้หมดแล้ว ไม่รู้ไม่เห็นอะไรแล้ว
10. ออกไปสถานที่จริง
สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียง
ตอบ ไม่เห็นอะไรเลย แต่รู้สึกมีพลังงานแรงมากอยู่ที่บนตึก ที่มือมีอาการชา วูบวาบ และร้อน อาราธนาหลวงปู่ แผ่บุญ ครอบวิมาน รู้สึกอากาศโดยรอบเย็นสบายขึ้น มีฝนตกปรอย ๆ ขอหลวงปู่ทำให้เป็นน้ำมนต์จักรพรรดิซะเลย เย็นไปทั่วทั้งบริเวณบางใหญ่..
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ การับสัมผัสจะชัดเจนมากขึ้น และแรงมากกว่าเดิม
สรุป วันที่เรียนทั้งวันมีอาการร้อนไปทั้งตัว..มีพลังงานไหลเข้าที่ตัวตลอดเวลา ไหลเข้าทางปลายนิ้วมือ ทางศรีษะ ทางหน้าผาก (ตามบริเวณที่พี่เอกจารอักขระให้) พลังงานล้นซะจนปิดสวิทอัตโนมัติเลย..มีแรมน้อยไปนิดนึงกลับถึงบ้านสลบเหมือดเลย..
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบ
ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ ในครั้งแรกจะตัองปรับการหายใจใหม่ให้ถูกต้อง โดยหายใจเข้าท้องป่อง-หายใจออกท้องแฟบ จากการที่มัวกังวลว่าหายใจถูกต้องมั้ยก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิ แต่พอปรับการหายใจได้ก็จะสงบ นิ่ง รู้สึกตัวเบาๆ รู้สึกเย็นที่ฝ่ามือข้างซ้าย ส่วนข้างขวาจะอุ่นๆ เล็กน้อย รู้สึกเหมือนมีลูกบอลกลม ๆ บนฝ่ามือ สว่างพอสมควร
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบ
ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือ ลูกบอลกลม ๆ บนฝ่ามือ สว่างมากขึ้นขยายรัศมีออกมาคลุมทั้งฝ่ามือเลยข้อมือขึ้นมาเล็กน้อย มีพลังงานไหลตามแขนขึ้นมาที่หัวไหล่เวลาที่หายใจเข้า
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์
ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ รู้สึกมีพลังงานจากหลวงปู่ดู่พุ่งมา ๒ สาย สายหนึ่งเข้ามาที่ตัวเรา และอีกสายพุ่งมาที่ก้อนหินวิ่งขึ้นมาตามฝ่ามือ ไหลไปตามแขนเข้าสู่ตัวและผ่านออกไปข้างหลังพลังงานที่เข้ามารู้สึกพุ่งมาแบบเป็นแผ่นเร็วมากเข้าสู่ตัวเราและผ่านออกไปข้างหลัง (แรงและเร็วแบบทำเอาเซไปด้านหลัง)ความรู้สึกอุ่น ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ
ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ ลูกบอลในฝ่ามือจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อหายใจเข้า เมื่อผลักฝ่ามือเข้าหากันจะรู้สึกถึงแรงต้านออก หยุ่นๆ คล้ายกับมีลูกบอลยางอยู่ในมือ มีความร้อน มีแสงสว่างมาก โดยเฉพาะบริเวณตรงกลางลูกบอลจะสว่างจ้ามากกว่าขอบด้านนอก
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม
รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ มือซ้ายหงายวางบนหัวเข่ารับมือขวาของเพื่อนที่นั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเรา มือขวาวางบนมือซ้ายของเพื่อนที่นั่งทางขวามือ วางมือกันแบบสบาย ๆ รู้สึกถึงพลังงานเป็นกระแสเหมือนสายน้ำไหลจากมือซ้ายเข้ามาที่ตัวเราและไหลออกไปทางมือขวา ไหลผ่านเข้าเป็นสายต่อเนื่องแบบเย็นๆ สบายๆ ความเร็วปานกลาง ขณะไหลออกจะอุ่นๆ ความเร็วเท่าๆ กัน
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว
อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ การไหลเข้าของพลังงานแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ที่อยู่ด้านหน้าสุด (ผู้ที่จับก้อนหิน) บางคนกระแสจะแรงมาก บางคนกระแสละเอียด บางคนกระแสเย็นสบายๆ บางคนกระแสจะร้อนมากจนแสบร้อนจากมือไหลไปสู้แขนออกทางด้านหลัง ในตัวจะร้อนมากๆ ความเร็วในการไหลผ่านก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จับก้อนหิน
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น
แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ การส่งพลังงานจะเห็นเป็นแสงสีทองพุ่งออกไปคลุมทั้งตัวผู้ที่รับพลัง ตัวผู้รับพลังจะสว่างมากการรับพลังจะเห็นเป็นแสงขาวพุ่งมาที่ตัว คลุมทั้งตัว กระแสเย็นๆ เบา สบาย
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น
แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ แต่ละคนจะมีแสงออร่าที่แตกต่างกัน บางคนจะเห็นเป็นรูปแบบเดิมเหมือนตัวเอง บางคนเห็นเป็นตัวเองแต่มีชฎายอดแหลมอยู่บนศรีษะ แสงสว่างของแต่ละคนจะต่างกันสว่างมากน้อยไม่เท่ากัน
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง
ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ ตอนนี้เริ่มมึนแล้ว รู้สึกล้ามาก..สมาธิไม่ดี..ไม่เห็นอะไรเลยเห็นแต่ตัวเองในกระจกตอนนี้หมดแล้ว ไม่รู้ไม่เห็นอะไรแล้ว
10. ออกไปสถานที่จริง
สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียง
ตอบ ไม่เห็นอะไรเลย แต่รู้สึกมีพลังงานแรงมากอยู่ที่บนตึก ที่มือมีอาการชา วูบวาบ และร้อน อาราธนาหลวงปู่ แผ่บุญ ครอบวิมาน รู้สึกอากาศโดยรอบเย็นสบายขึ้น มีฝนตกปรอย ๆ ขอหลวงปู่ทำให้เป็นน้ำมนต์จักรพรรดิซะเลย เย็นไปทั่วทั้งบริเวณบางใหญ่..
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ การับสัมผัสจะชัดเจนมากขึ้น และแรงมากกว่าเดิม
สรุป วันที่เรียนทั้งวันมีอาการร้อนไปทั้งตัว..มีพลังงานไหลเข้าที่ตัวตลอดเวลา ไหลเข้าทางปลายนิ้วมือ ทางศรีษะ ทางหน้าผาก (ตามบริเวณที่พี่เอกจารอักขระให้) พลังงานล้นซะจนปิดสวิทอัตโนมัติเลย..มีแรมน้อยไปนิดนึงกลับถึงบ้านสลบเหมือดเลย..
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง4-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 4 ซึ่งก็คือ คุณสัญชาติ เชียงการ
ก่อนอื่นก็มาจองที่ไว้เล่าประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปร่วมฝึกการสัมผัสพลังครับที่บ้านไม่มีคอม ต้องใช้คอมที่ทำงานอาจลงข้อมูลช้าไปต้องขอโทษด้วยครับ ผมเป็นหนึ่งใน ผู้เข้าร่วมการสัมผัสพลัง ซึ่งออกจะอยู่ไกลหน่อย (หนุ่มภูธร) แต่ก็มีใจอยากไปเลยจัดไปตามสั่งครับ (ขอใส่น้ำเยอะๆหน่อยครับ เนื้อไม่ค่อยมี)จากนครพนมถึงเมืองกรุง ยามเช้า 6 โมงกว่า ก็แวะไปบ้านญาติก่อนแล้วเดินทางมาบ้านอาจารย์เอก แม้จะหลงทางไปนิดหน่อยแต่ก็ถึงโดยปลอดภัย
จากที่เคยนึกถึงภาพหน้าอาจารย์ไว้ผิดคาดมากครับ อาจารย์เป็นหนุ่มอารมย์ดีมาก คุยสนุกและให้ความเป็นกันเอง กับทั้งพี่ที่มาร่วมการฝึกพลังงานก็ทยอยกันมา และแต่ละท่านก็มีความเป็นกันเองมากๆๆๆ จนทำให้ไม่รู้สึกแปลกที่เหมือนเวลาไปที่ใดใหม่ๆๆ และอาจารย์ได้มอบพระรูปเหมือนหลวงปู่ดู่แบบห้อยคอให้หนึ่งองค์ ส่วนพี่ๆท่านอื่นๆก็ได้รับไปคนละแบบกัน
เริ่มพิธีด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ สวดบทมหาจักรพรรดิ์ และให้ลองฝึกกั้นลมหายใจและอาจารย์ได้จาร (ฝังชิบให้ ไม่รู้เป็นรุ่นไหนเพราะทะลุทะลวงมาก) อาจารย์ได้สอนธรรมผ่านเลนซ์ซึ่งฟังแล้วง่ายเข้าใจได้โดยตรง ขอบพระคุณมากครับผู้เข้าร่วมการฝึกก็มี พี่ทรงพร พี่เล็ก พี่ต๊ะ พี่ณัฐ พี่ขวัญ พี่หญิงและพี่โอ๋มาฝึกอบรมร่วมกัน จากนั้นก็เริ่มการฝึกอบรบ
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบ ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ระยะแรกที่เริ่มฝึกการกั้นหายใจรู้สึกอึดอัดมาก เวลาหายใจเข้ามันก็จะรึบออก พอกั้นตอนหายใจออกมันก็กระหายลมมากเวลาจะเข้าอีกที ก็รีบสูดเข้า เลยสะดุดลมหายใจไม่ทันแต่รู้สึกที่ชิปที่ฝังให้รุนแรงมาก รู้สึกได้ทุกนิ้ว
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบ ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
เริ่มหายใจได้ดีและรู้สึกมีพลังงานความร้อนวิ่งไปมาอยู่ในร่างกายและตรงที่ฝังชิบก็มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างดี
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
การฝึกในช่วงนี้อาจารย์ก็ให้เปลี่ยนกันลุกไปจับพลังงานที่หินกายสิทธิ์สำหรับตัวผมทุกครั้ง(2 ครั้ง)ที่ได้ไปจับพลังจะมีอาการหัวใจเต้นแรงและรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วที่จับหินกายสิทธิ์มีการเต้นตุ๊บๆๆอย่างแรง และการจับนั้นอาจารย์ให้มองภาพหลวงปู่ไปด้วย ผมเห็นแขนที่จับมีความสว่างและในครั้งสุดท้ายขอรับพลังมองเห็นมีแสงสว่างจ้ามาจากองค์หลวงปู่ดู่แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นแสงจากหน้าต่างหรือเปล่า
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกันเหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
สำหรับการจับพลังลูกบอลนี้ผมไม่รู้สึกถึงลูกบอลแต่รู้สึกมีพลังที่ปลายนิ้วและที่กลางฝ่ามืออาจารย์ได้ให้ลองขยับมือออกและขยับมือเข้าหากัน และลองทำน้ำดื่มสุขภาพซึ่งการทำน้ำนี้หลังจากผมดื่มน้ำเข้าไปรสชาติของน้ำจะต่างจากน้ำธรรมดาคือมีความหวานชุ่มคอแต่ของผมมีอาการปวดหัวด้วยซึ่งอาจารย์และพี่ที่มาร่วมฝึกบอกว่าน้ำเข้าไปปรับธาตุ(เพิ่มความฉลาดด้วยนะผมว่า)และการทำน้ำนี้ก็มีประโยชน์มากแถมเก็บใส่ตู้เย็นได้ด้วย.
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
จากการฝึกนี้สัมผัสได้ว่ามีพลังงานวิ่งผ่านจากมือด้านซ้าย (ฝั่งพี่โอ๋) ไปยังด้านขวา (ฝั่งพี่ขวัญ) ซึ่งของผมรู้สึกพลังเข้าจากมือซ้ายและอ้อมไปด้านหลังไปออกมือขวาและมีพลังงานหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถวอยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
จากการจับพลังหินแล้วต่อแถวกัน พลังที่ได้รับมีความแตกต่างกัน สำหรับผมถ้าอยู่ปลายแถวจะรู้สึกว่าพลังไม่แรงเท่าอยู่ต้นแถว และมือของพี่ที่ต่อแถวผม(พี่หญิง)ตอนแรกร้อนแต่ตอนหลังเย็นมาก(แปลกดีครับ)
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ในส่วนการฝึกนี้ผมกับพี่ขวัญออกไปรับพลังเป็นคู่แรก ตอนที่หลับตาแล้วรับพลังนั้นขณะที่หลับตามีแสงสว่างสีขาว ซึ่งแตกต่างจากแสงแดดและมีความร้อนวิ่งวนภายในร่างกายอยู่ตลอดเวลาพอรับพลังเสร็จพี่หญิงก็ทักเรื่องที่ผมบอกว่าปวดหัวหลังจากดื่มน้ำที่ใส่พลังงานเข้าไปซึ่งอาการปวดนั้นหายไปแบบสนิทเลยครับ ซึ่งตัวผมเองก็ลืมในส่วนนี้ไปครับและพี่เขาทักว่าหน้าใสขึ้นด้วย(เขินๆ) ส่วนการถ่ายพลังนั้น ก็รู้สึกว่าที่ปลายนิ้วจะมีการเต็นอยู่ตลอดและพี่ที่ร่วมฝึกก็บอกว่าดีเป็นส่วนใหญ่
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็กแค่ไหนอย่างไร?
การฝึกดูแสงออร่านี้ จำไม่ค่อยได้ว่าของใครสูงอย่างไรแต่จะมีของพี่ขวัญ จะสูงและสว่างกว่าพี่ท่านอื่นและของท่านอื่นเช่น พี่หญิงกับพี่ณัฐรู้สึกว่ามองแล้วจะรู้สึกจ้าๆ และหลายท่านเห็นเหมือนลืมตาทั้งๆๆที่หลับตาแปลกดีครับอันนี้ ส่วนมากอาจารย์จะถามผมก่อน เพราะอยู่ปลายแถว ก็เห็นแสงสว่างทุกท่านแต่ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งการมองจะหลุดไป มองไม่เห็นอีกครับ
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
สำหรับการมองออร่าตัวเองในกระจกก็เห็นว่ามีแสงสีขาวแต่เห็นเป็นรูปหัวไม่ค่อยมีรายละเอียดครับ
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติมีภาพมีแสงมีเสียง พอออกภาคสนามหลวงปู่ก็พรมน้ำมนต์ให้ชุ่มเย็นกันครับ ในส่วนการจับพลังนั้นไม่ได้เห็นแสงสีอะไรกับเขาเลยครับ แต่รู้สึกก่อนและหลังจะแตกต่างกันนิดหน่อยคือตอนเข้าไปตอนแรกก็ขอรับพลัง จะมีอาการเต็นที่ปลายนิ้วเบาแต่พอขอบารมีหลวงปู่สัพเพฯออกไป ก็รู้สึกที่ปลายนิ้วเต็นแรงขึ้น
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
รู้สึกว่าการรับพลังงานจะดีขึ้นมากและได้ประสบการณ์ดีๆๆ หลายอย่าง แต่ที่แน่ๆคือได้รับน้ำใจดีๆและมิตรภาพจากพี่ทุกท่านอย่างมากมาย และขอขอบพระคุณมา ณโอกาศนี้ด้วยครับ.
ขอบพระคุณแขกรับเชิญไม่ว่าจะเป็นคุณอั๋ม พัชราภา หรือคุณไก่และกำลังใจจากญาติธรรมทุกท่านครับผิดพลาดประการใดต้องขออภัยและขอน้อมรับความผิดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ.
ก่อนอื่นก็มาจองที่ไว้เล่าประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปร่วมฝึกการสัมผัสพลังครับที่บ้านไม่มีคอม ต้องใช้คอมที่ทำงานอาจลงข้อมูลช้าไปต้องขอโทษด้วยครับ ผมเป็นหนึ่งใน ผู้เข้าร่วมการสัมผัสพลัง ซึ่งออกจะอยู่ไกลหน่อย (หนุ่มภูธร) แต่ก็มีใจอยากไปเลยจัดไปตามสั่งครับ (ขอใส่น้ำเยอะๆหน่อยครับ เนื้อไม่ค่อยมี)จากนครพนมถึงเมืองกรุง ยามเช้า 6 โมงกว่า ก็แวะไปบ้านญาติก่อนแล้วเดินทางมาบ้านอาจารย์เอก แม้จะหลงทางไปนิดหน่อยแต่ก็ถึงโดยปลอดภัย
จากที่เคยนึกถึงภาพหน้าอาจารย์ไว้ผิดคาดมากครับ อาจารย์เป็นหนุ่มอารมย์ดีมาก คุยสนุกและให้ความเป็นกันเอง กับทั้งพี่ที่มาร่วมการฝึกพลังงานก็ทยอยกันมา และแต่ละท่านก็มีความเป็นกันเองมากๆๆๆ จนทำให้ไม่รู้สึกแปลกที่เหมือนเวลาไปที่ใดใหม่ๆๆ และอาจารย์ได้มอบพระรูปเหมือนหลวงปู่ดู่แบบห้อยคอให้หนึ่งองค์ ส่วนพี่ๆท่านอื่นๆก็ได้รับไปคนละแบบกัน
เริ่มพิธีด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ สวดบทมหาจักรพรรดิ์ และให้ลองฝึกกั้นลมหายใจและอาจารย์ได้จาร (ฝังชิบให้ ไม่รู้เป็นรุ่นไหนเพราะทะลุทะลวงมาก) อาจารย์ได้สอนธรรมผ่านเลนซ์ซึ่งฟังแล้วง่ายเข้าใจได้โดยตรง ขอบพระคุณมากครับผู้เข้าร่วมการฝึกก็มี พี่ทรงพร พี่เล็ก พี่ต๊ะ พี่ณัฐ พี่ขวัญ พี่หญิงและพี่โอ๋มาฝึกอบรมร่วมกัน จากนั้นก็เริ่มการฝึกอบรบ
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบ ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ระยะแรกที่เริ่มฝึกการกั้นหายใจรู้สึกอึดอัดมาก เวลาหายใจเข้ามันก็จะรึบออก พอกั้นตอนหายใจออกมันก็กระหายลมมากเวลาจะเข้าอีกที ก็รีบสูดเข้า เลยสะดุดลมหายใจไม่ทันแต่รู้สึกที่ชิปที่ฝังให้รุนแรงมาก รู้สึกได้ทุกนิ้ว
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบ ทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
เริ่มหายใจได้ดีและรู้สึกมีพลังงานความร้อนวิ่งไปมาอยู่ในร่างกายและตรงที่ฝังชิบก็มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างดี
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
การฝึกในช่วงนี้อาจารย์ก็ให้เปลี่ยนกันลุกไปจับพลังงานที่หินกายสิทธิ์สำหรับตัวผมทุกครั้ง(2 ครั้ง)ที่ได้ไปจับพลังจะมีอาการหัวใจเต้นแรงและรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วที่จับหินกายสิทธิ์มีการเต้นตุ๊บๆๆอย่างแรง และการจับนั้นอาจารย์ให้มองภาพหลวงปู่ไปด้วย ผมเห็นแขนที่จับมีความสว่างและในครั้งสุดท้ายขอรับพลังมองเห็นมีแสงสว่างจ้ามาจากองค์หลวงปู่ดู่แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นแสงจากหน้าต่างหรือเปล่า
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกันเหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
สำหรับการจับพลังลูกบอลนี้ผมไม่รู้สึกถึงลูกบอลแต่รู้สึกมีพลังที่ปลายนิ้วและที่กลางฝ่ามืออาจารย์ได้ให้ลองขยับมือออกและขยับมือเข้าหากัน และลองทำน้ำดื่มสุขภาพซึ่งการทำน้ำนี้หลังจากผมดื่มน้ำเข้าไปรสชาติของน้ำจะต่างจากน้ำธรรมดาคือมีความหวานชุ่มคอแต่ของผมมีอาการปวดหัวด้วยซึ่งอาจารย์และพี่ที่มาร่วมฝึกบอกว่าน้ำเข้าไปปรับธาตุ(เพิ่มความฉลาดด้วยนะผมว่า)และการทำน้ำนี้ก็มีประโยชน์มากแถมเก็บใส่ตู้เย็นได้ด้วย.
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
จากการฝึกนี้สัมผัสได้ว่ามีพลังงานวิ่งผ่านจากมือด้านซ้าย (ฝั่งพี่โอ๋) ไปยังด้านขวา (ฝั่งพี่ขวัญ) ซึ่งของผมรู้สึกพลังเข้าจากมือซ้ายและอ้อมไปด้านหลังไปออกมือขวาและมีพลังงานหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถวอยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
จากการจับพลังหินแล้วต่อแถวกัน พลังที่ได้รับมีความแตกต่างกัน สำหรับผมถ้าอยู่ปลายแถวจะรู้สึกว่าพลังไม่แรงเท่าอยู่ต้นแถว และมือของพี่ที่ต่อแถวผม(พี่หญิง)ตอนแรกร้อนแต่ตอนหลังเย็นมาก(แปลกดีครับ)
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ในส่วนการฝึกนี้ผมกับพี่ขวัญออกไปรับพลังเป็นคู่แรก ตอนที่หลับตาแล้วรับพลังนั้นขณะที่หลับตามีแสงสว่างสีขาว ซึ่งแตกต่างจากแสงแดดและมีความร้อนวิ่งวนภายในร่างกายอยู่ตลอดเวลาพอรับพลังเสร็จพี่หญิงก็ทักเรื่องที่ผมบอกว่าปวดหัวหลังจากดื่มน้ำที่ใส่พลังงานเข้าไปซึ่งอาการปวดนั้นหายไปแบบสนิทเลยครับ ซึ่งตัวผมเองก็ลืมในส่วนนี้ไปครับและพี่เขาทักว่าหน้าใสขึ้นด้วย(เขินๆ) ส่วนการถ่ายพลังนั้น ก็รู้สึกว่าที่ปลายนิ้วจะมีการเต็นอยู่ตลอดและพี่ที่ร่วมฝึกก็บอกว่าดีเป็นส่วนใหญ่
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็กแค่ไหนอย่างไร?
การฝึกดูแสงออร่านี้ จำไม่ค่อยได้ว่าของใครสูงอย่างไรแต่จะมีของพี่ขวัญ จะสูงและสว่างกว่าพี่ท่านอื่นและของท่านอื่นเช่น พี่หญิงกับพี่ณัฐรู้สึกว่ามองแล้วจะรู้สึกจ้าๆ และหลายท่านเห็นเหมือนลืมตาทั้งๆๆที่หลับตาแปลกดีครับอันนี้ ส่วนมากอาจารย์จะถามผมก่อน เพราะอยู่ปลายแถว ก็เห็นแสงสว่างทุกท่านแต่ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งการมองจะหลุดไป มองไม่เห็นอีกครับ
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
สำหรับการมองออร่าตัวเองในกระจกก็เห็นว่ามีแสงสีขาวแต่เห็นเป็นรูปหัวไม่ค่อยมีรายละเอียดครับ
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติมีภาพมีแสงมีเสียง พอออกภาคสนามหลวงปู่ก็พรมน้ำมนต์ให้ชุ่มเย็นกันครับ ในส่วนการจับพลังนั้นไม่ได้เห็นแสงสีอะไรกับเขาเลยครับ แต่รู้สึกก่อนและหลังจะแตกต่างกันนิดหน่อยคือตอนเข้าไปตอนแรกก็ขอรับพลัง จะมีอาการเต็นที่ปลายนิ้วเบาแต่พอขอบารมีหลวงปู่สัพเพฯออกไป ก็รู้สึกที่ปลายนิ้วเต็นแรงขึ้น
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
รู้สึกว่าการรับพลังงานจะดีขึ้นมากและได้ประสบการณ์ดีๆๆ หลายอย่าง แต่ที่แน่ๆคือได้รับน้ำใจดีๆและมิตรภาพจากพี่ทุกท่านอย่างมากมาย และขอขอบพระคุณมา ณโอกาศนี้ด้วยครับ.
ขอบพระคุณแขกรับเชิญไม่ว่าจะเป็นคุณอั๋ม พัชราภา หรือคุณไก่และกำลังใจจากญาติธรรมทุกท่านครับผิดพลาดประการใดต้องขออภัยและขอน้อมรับความผิดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ.
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง3-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติ
มาแล้วครับ... ขออภัยที่วันนี้โพสรายงานสายเพราะเพิ่งกลับจากการประชุมงาน (ดึกมาก..กก กว่าจะเลิกประชุมปาเข้าไปตี 1 กลับมาถึงบ้านก็เกือบตี 2 แล้ว)
ขอส่งการบ้านชิ้นแรกก่อนครับ ส่วนที่ อ.เอกฯ ถามเพิ่มเติมผมขอตอบวันพรุ่งนี้นะครับ.. ง่วงแล้ววว
ขอบันทึกการฝึกสัมผัสพลังงานกับ อ.เอก และเพื่อนๆ (ในบรรยากาศสบายๆ กับโปรแกรมมันส์ๆ และฮาตลอดรายการ) ณ บ้าน 51/146 ตลาดบางใหญ่ซิตี้ครับ…
ผมไปถึงก็เลยเวลานัดแล้ว (พูดง่ายๆ ก็สายน่ะแหละ) ไปประมาณ 20 นาที... พอไปถึง อ.เอก กำลัง “ฝังชิป” โดยเอาเหล็กจารมาลงนิ้วทั้ง 10 ของผู้เข้ารับการฝึกทุกท่าน และลงกระหม่อมและหน้าผาก จากนั้นก็เริ่มโปรแกรมการจับพลังงานเลยครับ
การฝึกที่ 1: นั่งสมาธิโดยหงายมือขึ้นวางบนเข่า ไม่ต้องกำหนดลมหายใจ เพียงแค่ใช้จิตจดจ่ออยู่กับมือทั้งสองข้างเท่านั้น ประมาณ 10 นาที อ.เอกก็สอบถามความรู้สึกของทุกๆ คน ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าเหมือนมือทั้งสองข้างอุ้มเสากลมๆ อ้วนๆ เป็นแท่งๆ และนิ้วมือรู้สึกเต้นจิ๊บๆ ทั้งสิบนิ้วรู้สึกได้มากที่สุดตรงบริเวณที่ถูกฝังชิป
การฝึกที่ 2: นั่งสมาธิโดยทำเหมือนกับคอร์สแรกเลย แต่ต่างกันตรงที่ให้กำหนดจิตว่า “ขอพลังงานจงเข้ามาๆ ๆ ” ที่เหลือเหมือนกับคอร์สแรกครับ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าปลายนิ้วจะสลับแปล๊บๆ สลับกันไปทั้งมือซ้ายและขวา (เหมือนไฟบนหน้าปัดควบคุมในหนังแนวไฮไฟนั่นแหละครับ) และทุกๆ ครั้งที่ปลายนิ้วแปล๊บๆ สลับกันนั้น รู้สึกเหมือนมีพลังวิ่งเข้าเส้นเอ็นข้อมือแว้บๆ ตลอด..
การฝึกที่ 3: ให้เอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน แล้วมองภาพหลวงปู่ (จะมองรูปหล่อนั่งดวง ล.ป.ดู่ หรือรูป ล.ป. ทวดที่แขวนบนผนังก็ได้) โดยให้จับและมองภาพเฉยๆ
ความรู้สึกของผม: ผมเลือกมองภาพ ล.ป.ทวดที่แขวนอยู่ (เพราะเห็นชัดดีครับ) รู้สึกว่าก้อนหินที่จับว่าเย็นแล้ว แต่มือเราเย็นกว่าอีก (เย็นเหมือนมือเป็นน้ำแข็ง) และบางครั้งรู้สึกมือกระตุกด้วย
การฝึกที่ 4: ทำเหมือนการฝึกที่ 3 แต่เพิ่มการกำหนดคาบลมหายใจ โดยเมื่อหายใจเข้า ให้หยุดและนับ 1-5 วินาที จากนั้นปล่อยลมหายใจออกแล้วหยุดนับ 1-5 เพียงแต่ในขณะที่สูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานในใจว่า "ขออัญเชิญพลังกายสิทธิ์จากหลวงปู่เข้ามา" ส่วนตอนหายใจออกไม่ต้องอธิษฐานอะไรครับ ให้ทำอย่างนี้ 5 รอบ หลังจากนั้นนับคาบลมหายใจโดยเพิ่มเป็นนับ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: การสูดลมหายใจครั้งแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอครั้งที่ 3-5 ระหว่างสูดลมหายใจเข้าและกำหนดจิตขอพลังเข้ามา รู้สึกว่าบริเวณฝ่ามือเย็นวาบไปหมด และรู้สึกว่ามีพลังหนาๆ มากๆ ถูกดึงดูดเข้ามาที่ตัวผ่านมือทั้งสองข้าง (แต่พลังที่เข้ามาไม่เย็นนะครับ อุณหภูมิปกติ)
การฝึกที่ 5: เอามือปั้นๆ เหมือนกำลังจับลูกบอลกลมๆ หลังจากนั้นให้นั่งสมาธิทำมือเหมือนประคองลูกบอลนั้นและกำหนดคาบลมหายใจเหมือนการฝึกที่ 4 เวลาหายใจเข้าให้ทำมือขยายลูกบอลไปตามการสูดลม เวลาหายใจออกให้หดมือลงตามแรงลมหายใจ
ความรู้สึกของผม: รู้สึกว่าเหมือนตัวเองประคองลูกบอลอยู่ในมือจริงๆ พอหลับตาแล้วเห็นว่ามีลูกบอลใส 2 ชั้นซ้อนกันอยู่ และลูกบอลทั้งสองมีลายเป็นริ้วขาวๆ เหมือนก้อนเมฆหมุนริ้วๆ ไปมา รู้สึกถึงว่าเวลาผ่อนลมหายใจออกแล้วหดมือลง ลูกบอลมันแน่นจนหดมือไม่ลงเลยครับ รู้สึกเหมือนมีแรงแน่นๆ ดันมืออยู่...
การฝึกที่ 6: เอาแก้วใส่น้ำมาวาง เอามือประคองลูกบอลเหมือนการฝึกครั้งที่แล้วให้อยูเหนือแก้วน้ำ และระหว่างสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า “ขอพลังสุขภาพดี จงสถิตอยู่ในน้ำแก้วนี้” แล้วนับคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: ตอนประคองลูกบอลอยู่ รู้สึกว่ากดมือเข้าหากันยาก แต่พออธิษฐานให้พลังงานสุขภาพดีลงไปในน้ำ ร็สึกว่ามีพลังอยู่เหนือน้ำ เพราะสังเกตเห็นว่าผิวน้ำกระเพื่อมนิดๆ
การฝึกที่ 7: นั่งรวมตัวกันเป็นวง เอามือแตะคนข้างซ้ายและขวา โดยมือข้างซ้ายคว่ำลง(รับพลัง) ส่วนมือขวาหงายขึ้น (ส่งพลัง) จากนั้นทรงภาพหลวงปู่ และสวดพระคาถาจักรพรรดิในใจ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าการนั่งรวมตัวกัน ทำให้ทรงภาพหลวงปู่ได้ง่ายขึ้น และเร็วมากๆ ด้วย เพราะแค่ อ.เอกฯ บอกให้ทรงภาพหลวงปู่เท่านั้น ภาพขึ้นติดหน้าผากผมตามมาทันที (สุดยอดๆ ๆ ๆ ) และรู้สึกว่ามือซ้ายที่รับพลังงานจะชา ส่วนมือขวาที่ส่งพลังงานมีกระแสไฟฟ้าเต้นยิบๆ เหมือนจับวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้าสถิตตลอดเวลา
การฝึกที่ 8: ฝึกการส่งต่อพลังงาน โดยให้ยืนเข้าแถวและเอามือแตะบ่าคนข้างหน้าเหมือนเล่นงูกินหาง โดยหัวแถวเอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน ตาจับจ้องที่ภาพหลวงปู่ทวดที่แขวนบนผนัง กำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที ตอนสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า "ขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่จงเข้ามา และส่งต่อๆ ไป" ทำแบบนี้ซ้ำๆ 5 คาบลมหายใจ จากนั้นก็ออกไปต่อท้ายแถวให้ผู้ที่อยู่ข้างหลังทำเช่นเดียวกันต่อๆ กันไปจนครบ
ความรู้สึกของผม: ตอนอยู่ข้างหน้า เมื่อสูดลมหายใจเข้าและอธิษฐานขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่เข้ามา.. รู้สึกว่ามีพลังหนาๆ เย็นๆ ถูกดูดเข้าจากมือทั้งสองข้างไหลเข้าไปในตัว และวิ่งต่อไปข้างหลัง ตอนต่อท้ายแถว รู้สึกว่ามือเหมือนดูดพลังแรงขึ้น แต่พลังที่เข้าสู่มือตอนอยู่ท้ายแถวน้อยกว่าตอนอยู่หัวแถว (ตอนอยู่ท้ายๆแถว ผมจึงแอบทำเพิ่มด้วยการมองภาพหลวงปู่และอธิษฐานขอพลังส่งต่อๆ เข้ามาด้วยครับ เร่งพลังหน่อยเพราะมีน้อย อิอิ)
การฝึกที่ 9: มีอาสาสมัคร 1 ท่าน ไปนั่งพิงผนังอยู่ ส่วนผู้เข้าฝึกที่เหลือจ้องไปที่จมูกของอาสาสมัคร พร้อมกับกำหนดลมหายใจนับ 1-8 วินาที จำนวน 5 คาบลมหายใจ จากนั้นให้มองไปที่เหนือศีรษะของอาสาสมัคร 1 คืบ จากนั้นทุกคนก็สลับกันไปนั่ง
ความรู้สึกของผม: แต่ละคนมี “ออร่า” รูปร่างไม่เหมือนกัน บางท่านผมเห็นเป็นแสงสว่างสีขาวรอบตัว บางท่านเห็นเพียงวงๆ ของศีรษะยืดๆ รูปทรงไม่แน่นอน บางท่านมีรัศมีรอบศีรษะ บางท่านผมเห็นเป็นคล้ายๆ หมวกยอดแหลมๆ เป็นสามเหลี่ยมแบนๆ เตี้ยๆ
การฝึกที่ 10: นั่งส่องกระจก โดยทำเหมือนการฝึกที่ 8 แต่มองหน้าตัวเองเท่านั้น
ความรู้สึกของผม: ผมเห็น “ออร่า” ของตัวเองเป็นรูปทรงคน และบริเวณใบหน้าเห็นตา + จมูกชัดเจน แถมหันจากซ้ายไปขวาด้วย (เออ... แปลกดี ออร่าก็ขยับได้ อิอิ)
การฝึกที่ 11: จับพลังลูกแก้วจักรพรรดิ จำนวน 2 ลูก (อ.เอกให้ทุกคนดูแลให้ดี บอกเป็นเหมือน “บัดดี้” แถมให้ตั้งชื่อให้แต่ละลูกด้วย) โดยใช้นิ้วโป้ง, นิ้วชี้ และนิ้วกลางประคองลูกแก้วบนมือแต่ละข้าง จากนั้นนับคาบลมหายใจ 1- 8 วินาที
ความรู้สึกของผม: รู้สึกลูกแก้วสั่นถี่ๆ เหมือนโทรศัพท์ที่เปิดระบบสั่งนไว้ แต่ความถี่สูงกว่ามาก (ผมตั้งชื่อบัดดี้ของผมแล้วล่ะ.. ชื่อ "เงิน" กับ "ทอง" อิอิ พกติดตัวตลอดเวลาจะได้รวยๆ มีเงินมีทองติดตัวตลอดเวลา 555)
การฝึกที่ 12: รับพระผงจักรพรรดิ รูปสมเด็จองค์ปฐมคนละ 2 องค์ เขียนด้านหลังแต่ละองค์ว่า “พระปัญญา” กับ “พระสติ” และเขียนชื่อของตัวเองลงไปข้างล่างคำทั้งสอง และประคองไว้ที่มือทั้งสองข้างกับกำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: มีกระแสไฟฟ้าที่ปลายนิ้วที่แตะพระผงจักรพรรดิ
การฝึกที่ 13: ออกไปสัมผัสพลังงานนอกสถานที่ (เป็นการฝึกซ้อมในการฝึกสัมผัสพลังงานตามที่ต่างๆ และวางลูกแก้ว) โดย 1. หลับตาและสัมผัสพลังงานรอบตัว 2. ลืมตาและมองไปรอบๆ เหมือนบันทึกภาพไว้ 3. สวดสัพเพฯ อธิษฐานของหลวงปู่รวมพลังปรับภพภูมิ 4. สัมผัสพลังงานแบบ 1-2 อีกครั้งหนึ่งแล้วสังเกตความแตกต่าง
ความรู้สึกของผม: ตอนแรก หลังจากหลับตาแล้วพอลืมตาเห็นรอบบริวเณเป็นสีแดงๆ เหมือนมีใครเอาฟิลเตอร์สีแดงมาครอบเลนส์ หลังจากหลับตาสวดสัพเพฯ อธิษฐานและทรงภาพหลวงปู่แล้ว ระหว่างนั้นสีก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้าๆ พอลืมตาปรากฎว่ารอบบริเวณสดใสขึ้นและเป็นสีออกฟ้าๆ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 4 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
มาแล้วครับ... ขออภัยที่วันนี้โพสรายงานสายเพราะเพิ่งกลับจากการประชุมงาน (ดึกมาก..กก กว่าจะเลิกประชุมปาเข้าไปตี 1 กลับมาถึงบ้านก็เกือบตี 2 แล้ว)
ขอส่งการบ้านชิ้นแรกก่อนครับ ส่วนที่ อ.เอกฯ ถามเพิ่มเติมผมขอตอบวันพรุ่งนี้นะครับ.. ง่วงแล้ววว
ขอบันทึกการฝึกสัมผัสพลังงานกับ อ.เอก และเพื่อนๆ (ในบรรยากาศสบายๆ กับโปรแกรมมันส์ๆ และฮาตลอดรายการ) ณ บ้าน 51/146 ตลาดบางใหญ่ซิตี้ครับ…
ผมไปถึงก็เลยเวลานัดแล้ว (พูดง่ายๆ ก็สายน่ะแหละ) ไปประมาณ 20 นาที... พอไปถึง อ.เอก กำลัง “ฝังชิป” โดยเอาเหล็กจารมาลงนิ้วทั้ง 10 ของผู้เข้ารับการฝึกทุกท่าน และลงกระหม่อมและหน้าผาก จากนั้นก็เริ่มโปรแกรมการจับพลังงานเลยครับ
การฝึกที่ 1: นั่งสมาธิโดยหงายมือขึ้นวางบนเข่า ไม่ต้องกำหนดลมหายใจ เพียงแค่ใช้จิตจดจ่ออยู่กับมือทั้งสองข้างเท่านั้น ประมาณ 10 นาที อ.เอกก็สอบถามความรู้สึกของทุกๆ คน ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าเหมือนมือทั้งสองข้างอุ้มเสากลมๆ อ้วนๆ เป็นแท่งๆ และนิ้วมือรู้สึกเต้นจิ๊บๆ ทั้งสิบนิ้วรู้สึกได้มากที่สุดตรงบริเวณที่ถูกฝังชิป
การฝึกที่ 2: นั่งสมาธิโดยทำเหมือนกับคอร์สแรกเลย แต่ต่างกันตรงที่ให้กำหนดจิตว่า “ขอพลังงานจงเข้ามาๆ ๆ ” ที่เหลือเหมือนกับคอร์สแรกครับ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าปลายนิ้วจะสลับแปล๊บๆ สลับกันไปทั้งมือซ้ายและขวา (เหมือนไฟบนหน้าปัดควบคุมในหนังแนวไฮไฟนั่นแหละครับ) และทุกๆ ครั้งที่ปลายนิ้วแปล๊บๆ สลับกันนั้น รู้สึกเหมือนมีพลังวิ่งเข้าเส้นเอ็นข้อมือแว้บๆ ตลอด..
การฝึกที่ 3: ให้เอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน แล้วมองภาพหลวงปู่ (จะมองรูปหล่อนั่งดวง ล.ป.ดู่ หรือรูป ล.ป. ทวดที่แขวนบนผนังก็ได้) โดยให้จับและมองภาพเฉยๆ
ความรู้สึกของผม: ผมเลือกมองภาพ ล.ป.ทวดที่แขวนอยู่ (เพราะเห็นชัดดีครับ) รู้สึกว่าก้อนหินที่จับว่าเย็นแล้ว แต่มือเราเย็นกว่าอีก (เย็นเหมือนมือเป็นน้ำแข็ง) และบางครั้งรู้สึกมือกระตุกด้วย
การฝึกที่ 4: ทำเหมือนการฝึกที่ 3 แต่เพิ่มการกำหนดคาบลมหายใจ โดยเมื่อหายใจเข้า ให้หยุดและนับ 1-5 วินาที จากนั้นปล่อยลมหายใจออกแล้วหยุดนับ 1-5 เพียงแต่ในขณะที่สูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานในใจว่า "ขออัญเชิญพลังกายสิทธิ์จากหลวงปู่เข้ามา" ส่วนตอนหายใจออกไม่ต้องอธิษฐานอะไรครับ ให้ทำอย่างนี้ 5 รอบ หลังจากนั้นนับคาบลมหายใจโดยเพิ่มเป็นนับ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: การสูดลมหายใจครั้งแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอครั้งที่ 3-5 ระหว่างสูดลมหายใจเข้าและกำหนดจิตขอพลังเข้ามา รู้สึกว่าบริเวณฝ่ามือเย็นวาบไปหมด และรู้สึกว่ามีพลังหนาๆ มากๆ ถูกดึงดูดเข้ามาที่ตัวผ่านมือทั้งสองข้าง (แต่พลังที่เข้ามาไม่เย็นนะครับ อุณหภูมิปกติ)
การฝึกที่ 5: เอามือปั้นๆ เหมือนกำลังจับลูกบอลกลมๆ หลังจากนั้นให้นั่งสมาธิทำมือเหมือนประคองลูกบอลนั้นและกำหนดคาบลมหายใจเหมือนการฝึกที่ 4 เวลาหายใจเข้าให้ทำมือขยายลูกบอลไปตามการสูดลม เวลาหายใจออกให้หดมือลงตามแรงลมหายใจ
ความรู้สึกของผม: รู้สึกว่าเหมือนตัวเองประคองลูกบอลอยู่ในมือจริงๆ พอหลับตาแล้วเห็นว่ามีลูกบอลใส 2 ชั้นซ้อนกันอยู่ และลูกบอลทั้งสองมีลายเป็นริ้วขาวๆ เหมือนก้อนเมฆหมุนริ้วๆ ไปมา รู้สึกถึงว่าเวลาผ่อนลมหายใจออกแล้วหดมือลง ลูกบอลมันแน่นจนหดมือไม่ลงเลยครับ รู้สึกเหมือนมีแรงแน่นๆ ดันมืออยู่...
การฝึกที่ 6: เอาแก้วใส่น้ำมาวาง เอามือประคองลูกบอลเหมือนการฝึกครั้งที่แล้วให้อยูเหนือแก้วน้ำ และระหว่างสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า “ขอพลังสุขภาพดี จงสถิตอยู่ในน้ำแก้วนี้” แล้วนับคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: ตอนประคองลูกบอลอยู่ รู้สึกว่ากดมือเข้าหากันยาก แต่พออธิษฐานให้พลังงานสุขภาพดีลงไปในน้ำ ร็สึกว่ามีพลังอยู่เหนือน้ำ เพราะสังเกตเห็นว่าผิวน้ำกระเพื่อมนิดๆ
การฝึกที่ 7: นั่งรวมตัวกันเป็นวง เอามือแตะคนข้างซ้ายและขวา โดยมือข้างซ้ายคว่ำลง(รับพลัง) ส่วนมือขวาหงายขึ้น (ส่งพลัง) จากนั้นทรงภาพหลวงปู่ และสวดพระคาถาจักรพรรดิในใจ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าการนั่งรวมตัวกัน ทำให้ทรงภาพหลวงปู่ได้ง่ายขึ้น และเร็วมากๆ ด้วย เพราะแค่ อ.เอกฯ บอกให้ทรงภาพหลวงปู่เท่านั้น ภาพขึ้นติดหน้าผากผมตามมาทันที (สุดยอดๆ ๆ ๆ ) และรู้สึกว่ามือซ้ายที่รับพลังงานจะชา ส่วนมือขวาที่ส่งพลังงานมีกระแสไฟฟ้าเต้นยิบๆ เหมือนจับวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้าสถิตตลอดเวลา
การฝึกที่ 8: ฝึกการส่งต่อพลังงาน โดยให้ยืนเข้าแถวและเอามือแตะบ่าคนข้างหน้าเหมือนเล่นงูกินหาง โดยหัวแถวเอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน ตาจับจ้องที่ภาพหลวงปู่ทวดที่แขวนบนผนัง กำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที ตอนสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า "ขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่จงเข้ามา และส่งต่อๆ ไป" ทำแบบนี้ซ้ำๆ 5 คาบลมหายใจ จากนั้นก็ออกไปต่อท้ายแถวให้ผู้ที่อยู่ข้างหลังทำเช่นเดียวกันต่อๆ กันไปจนครบ
ความรู้สึกของผม: ตอนอยู่ข้างหน้า เมื่อสูดลมหายใจเข้าและอธิษฐานขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่เข้ามา.. รู้สึกว่ามีพลังหนาๆ เย็นๆ ถูกดูดเข้าจากมือทั้งสองข้างไหลเข้าไปในตัว และวิ่งต่อไปข้างหลัง ตอนต่อท้ายแถว รู้สึกว่ามือเหมือนดูดพลังแรงขึ้น แต่พลังที่เข้าสู่มือตอนอยู่ท้ายแถวน้อยกว่าตอนอยู่หัวแถว (ตอนอยู่ท้ายๆแถว ผมจึงแอบทำเพิ่มด้วยการมองภาพหลวงปู่และอธิษฐานขอพลังส่งต่อๆ เข้ามาด้วยครับ เร่งพลังหน่อยเพราะมีน้อย อิอิ)
การฝึกที่ 9: มีอาสาสมัคร 1 ท่าน ไปนั่งพิงผนังอยู่ ส่วนผู้เข้าฝึกที่เหลือจ้องไปที่จมูกของอาสาสมัคร พร้อมกับกำหนดลมหายใจนับ 1-8 วินาที จำนวน 5 คาบลมหายใจ จากนั้นให้มองไปที่เหนือศีรษะของอาสาสมัคร 1 คืบ จากนั้นทุกคนก็สลับกันไปนั่ง
ความรู้สึกของผม: แต่ละคนมี “ออร่า” รูปร่างไม่เหมือนกัน บางท่านผมเห็นเป็นแสงสว่างสีขาวรอบตัว บางท่านเห็นเพียงวงๆ ของศีรษะยืดๆ รูปทรงไม่แน่นอน บางท่านมีรัศมีรอบศีรษะ บางท่านผมเห็นเป็นคล้ายๆ หมวกยอดแหลมๆ เป็นสามเหลี่ยมแบนๆ เตี้ยๆ
การฝึกที่ 10: นั่งส่องกระจก โดยทำเหมือนการฝึกที่ 8 แต่มองหน้าตัวเองเท่านั้น
ความรู้สึกของผม: ผมเห็น “ออร่า” ของตัวเองเป็นรูปทรงคน และบริเวณใบหน้าเห็นตา + จมูกชัดเจน แถมหันจากซ้ายไปขวาด้วย (เออ... แปลกดี ออร่าก็ขยับได้ อิอิ)
การฝึกที่ 11: จับพลังลูกแก้วจักรพรรดิ จำนวน 2 ลูก (อ.เอกให้ทุกคนดูแลให้ดี บอกเป็นเหมือน “บัดดี้” แถมให้ตั้งชื่อให้แต่ละลูกด้วย) โดยใช้นิ้วโป้ง, นิ้วชี้ และนิ้วกลางประคองลูกแก้วบนมือแต่ละข้าง จากนั้นนับคาบลมหายใจ 1- 8 วินาที
ความรู้สึกของผม: รู้สึกลูกแก้วสั่นถี่ๆ เหมือนโทรศัพท์ที่เปิดระบบสั่งนไว้ แต่ความถี่สูงกว่ามาก (ผมตั้งชื่อบัดดี้ของผมแล้วล่ะ.. ชื่อ "เงิน" กับ "ทอง" อิอิ พกติดตัวตลอดเวลาจะได้รวยๆ มีเงินมีทองติดตัวตลอดเวลา 555)
การฝึกที่ 12: รับพระผงจักรพรรดิ รูปสมเด็จองค์ปฐมคนละ 2 องค์ เขียนด้านหลังแต่ละองค์ว่า “พระปัญญา” กับ “พระสติ” และเขียนชื่อของตัวเองลงไปข้างล่างคำทั้งสอง และประคองไว้ที่มือทั้งสองข้างกับกำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: มีกระแสไฟฟ้าที่ปลายนิ้วที่แตะพระผงจักรพรรดิ
การฝึกที่ 13: ออกไปสัมผัสพลังงานนอกสถานที่ (เป็นการฝึกซ้อมในการฝึกสัมผัสพลังงานตามที่ต่างๆ และวางลูกแก้ว) โดย 1. หลับตาและสัมผัสพลังงานรอบตัว 2. ลืมตาและมองไปรอบๆ เหมือนบันทึกภาพไว้ 3. สวดสัพเพฯ อธิษฐานของหลวงปู่รวมพลังปรับภพภูมิ 4. สัมผัสพลังงานแบบ 1-2 อีกครั้งหนึ่งแล้วสังเกตความแตกต่าง
ความรู้สึกของผม: ตอนแรก หลังจากหลับตาแล้วพอลืมตาเห็นรอบบริวเณเป็นสีแดงๆ เหมือนมีใครเอาฟิลเตอร์สีแดงมาครอบเลนส์ หลังจากหลับตาสวดสัพเพฯ อธิษฐานและทรงภาพหลวงปู่แล้ว ระหว่างนั้นสีก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้าๆ พอลืมตาปรากฎว่ารอบบริเวณสดใสขึ้นและเป็นสีออกฟ้าๆ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 4 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง2-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 2 ซึ่งก็คือ คุณณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
ก่อนนอื่นขอบอกว่า ผมจะไม่ค่อยมีสัมผัส แบบพิเศษๆ เหมือนของคนอื่นอีกทั้งจะ ไม่มีค่อยมีความรู้สึกแบบที่คนอื่นเขารู้สึก ที่เขาบอกได้แบบชัดเจนว่า เออ แบบนี้ แบบนั้น อ่านไปแล้วอาจจะธรรมดา สามัญไปหน่อย แต่ก็จะเขียนจากความรู้สึกที่ สัมผัสได้จริง ไม่มั่วนิ่มแน่นอน ผมเป้นคนที่จะจำลายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงๆ จะลืมหมด อันนี้เป้นมาตลอดชีวิต เรื่องตอนเรียนชั้นประถม มัธยม ปีที่แล้ว แม้แต่เมื่อวาน จะลืมแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่จดใส่กระดาษไว้ตอนนั้นๆ ลืมหมด ดั่งนี้ ได้เข้าใจว่า ไม่ใช่ไม่อยากเขียน แต่ มันจำไม่ได้ แต่ก็จะขอเล่า ภาพรวมว่าเป้นอย่างไร และ จับความรู้สึกอะไรได้บ้าง
โอ มี หัวข้อแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ .ใจจะนิ่งลง เร็ว ( เพราะมัวไปจดจ่อกับ การอั้นลม)ร่างกาย พลังคล้ายๆ จะรวมคือรู้สึกมีพลังก่อเกิด ขึ้นในร่าง
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ . ตอนแรกๆ ใจจะระรัวเร็ว และค่อนข้างอึดอัด แต่ถ้าเริ่มชินและจัดระเบีบ การหายใจให้ สอดคล้อง ก็จะรวมจิต และพลังงาน ได้ดีเหมือนกัน
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ . รู้สึกว่า หินมีการดึงดูดมือเล็กน้อย เหมือนว่ามีอะไรดูดไว้ที่นิ้วเบา ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ. ข้อนี้ จะตอบได้ชัดเจนหน่อย เพราะลูกบอลแบบนี้เคยเล่นมาก่อน ลูกบอลของผม แล้วแต่ว่า ใจจะให้ลูกขนาดไหนก็ได้ แต่ ถ้าลูกเล็กๆ จะมีความเหนียวหยุ่นกว่า แล้วก็ถ้าเอานิ้วมาใกล้ๆกัน จะรู้สึกได้ เลยว่า มีอะไรวิ่งระหว่างนิ้วไป ผ่านไป ตรงกลางใจมือ ทั้งสองข้าง เหมือนมีเส้น เชื่อมโยงกันไว้ รู้สึกแปร๊ป ๆ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ. ผมจับความรู้สึกการหมุนเวียนไม่ได้เลย แต่รู้สึกว่า มือที่จับกับ อ.โอ๋ ทางด้านขวา อุ่นมาก ทางซ้าย กับ น้องหมวยไม่ค่อยอุ่น
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ. แรกเลยผมอยู่ กลางแถว ระหว่างกลางแถว จนถึงตอนที่ไปอยู่หัวแถว (ซึ่งจะเป้นคนที่จับก้อนหินนั้น แทบไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอเปลี่ยนมาอยู่ท้ายแถว เหมือนว่า มือที่จับไหล่อาจารย์ โอ๋ มีความอุ่นมาก
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ . ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าต่างกัน (คือไม่ได้รู้สึกอะไรเลย)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ . ข้อนี้ บอกได้เลยว่า มหัศจรรย์ มาก ทีแรกๆ ก้มองไม่เป้นก็เลยคิดว่า อา... คงกินแห้วอีกแล้ว ในรอบนี้ แต่พอถึงคนที่4 เห้นแสงขาวๆ แว๊ปๆ ตรงจุดที่ อ.เอกให้มอง (เหนือหัว1 ผ่ามือ ก็เห้นเป้นแสงสีขาว เหมือนรัศมี คุมครอบ คนๆนั้นไว้ แต่ถ้าวางโฟกัสสายตาผิด แสงจะหายไปทันที ผมเห้นของทุกคนคล้ายกัน คือออกสีขาว แต่จะชัดเข้ม จนแสบตา คลุมครอบไว้ประมาณ 2-3 นิ้วฟุต (ดีใจได้เห็น แล้ว อิอิ นึกว่าจะกินแห้วตลอด )
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ. คล้ายๆ กัน แต่ ของตัวเอง รัศมีจะน้อยกว่าคนอื่น
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียงอีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ. ที่ต่างก็คือ ทำลูกบอลได้ง่ายขึ้น เหมือนสร้างพลังได้ง่ายกว่าที่ยังไม่ได้ เจิมจุ่มจิ้ม ส่วนความรู้สึกอื่นๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ครับ
คาราวะ (น้ำชา ) อาจารย์ 1 จอก กรึ๊บ ถึงจะ ไม่มีความรู้สึกชัดเจนเก่งเหมือนคนอื่น แต่ก็จะพยายามทำไปตามเสต๊ป มึนทำไปเรื่อยๆ อิอิ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
ก่อนนอื่นขอบอกว่า ผมจะไม่ค่อยมีสัมผัส แบบพิเศษๆ เหมือนของคนอื่นอีกทั้งจะ ไม่มีค่อยมีความรู้สึกแบบที่คนอื่นเขารู้สึก ที่เขาบอกได้แบบชัดเจนว่า เออ แบบนี้ แบบนั้น อ่านไปแล้วอาจจะธรรมดา สามัญไปหน่อย แต่ก็จะเขียนจากความรู้สึกที่ สัมผัสได้จริง ไม่มั่วนิ่มแน่นอน ผมเป้นคนที่จะจำลายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงๆ จะลืมหมด อันนี้เป้นมาตลอดชีวิต เรื่องตอนเรียนชั้นประถม มัธยม ปีที่แล้ว แม้แต่เมื่อวาน จะลืมแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่จดใส่กระดาษไว้ตอนนั้นๆ ลืมหมด ดั่งนี้ ได้เข้าใจว่า ไม่ใช่ไม่อยากเขียน แต่ มันจำไม่ได้ แต่ก็จะขอเล่า ภาพรวมว่าเป้นอย่างไร และ จับความรู้สึกอะไรได้บ้าง
โอ มี หัวข้อแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ .ใจจะนิ่งลง เร็ว ( เพราะมัวไปจดจ่อกับ การอั้นลม)ร่างกาย พลังคล้ายๆ จะรวมคือรู้สึกมีพลังก่อเกิด ขึ้นในร่าง
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ . ตอนแรกๆ ใจจะระรัวเร็ว และค่อนข้างอึดอัด แต่ถ้าเริ่มชินและจัดระเบีบ การหายใจให้ สอดคล้อง ก็จะรวมจิต และพลังงาน ได้ดีเหมือนกัน
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ . รู้สึกว่า หินมีการดึงดูดมือเล็กน้อย เหมือนว่ามีอะไรดูดไว้ที่นิ้วเบา ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ. ข้อนี้ จะตอบได้ชัดเจนหน่อย เพราะลูกบอลแบบนี้เคยเล่นมาก่อน ลูกบอลของผม แล้วแต่ว่า ใจจะให้ลูกขนาดไหนก็ได้ แต่ ถ้าลูกเล็กๆ จะมีความเหนียวหยุ่นกว่า แล้วก็ถ้าเอานิ้วมาใกล้ๆกัน จะรู้สึกได้ เลยว่า มีอะไรวิ่งระหว่างนิ้วไป ผ่านไป ตรงกลางใจมือ ทั้งสองข้าง เหมือนมีเส้น เชื่อมโยงกันไว้ รู้สึกแปร๊ป ๆ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ. ผมจับความรู้สึกการหมุนเวียนไม่ได้เลย แต่รู้สึกว่า มือที่จับกับ อ.โอ๋ ทางด้านขวา อุ่นมาก ทางซ้าย กับ น้องหมวยไม่ค่อยอุ่น
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ. แรกเลยผมอยู่ กลางแถว ระหว่างกลางแถว จนถึงตอนที่ไปอยู่หัวแถว (ซึ่งจะเป้นคนที่จับก้อนหินนั้น แทบไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอเปลี่ยนมาอยู่ท้ายแถว เหมือนว่า มือที่จับไหล่อาจารย์ โอ๋ มีความอุ่นมาก
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ . ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าต่างกัน (คือไม่ได้รู้สึกอะไรเลย)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ . ข้อนี้ บอกได้เลยว่า มหัศจรรย์ มาก ทีแรกๆ ก้มองไม่เป้นก็เลยคิดว่า อา... คงกินแห้วอีกแล้ว ในรอบนี้ แต่พอถึงคนที่4 เห้นแสงขาวๆ แว๊ปๆ ตรงจุดที่ อ.เอกให้มอง (เหนือหัว1 ผ่ามือ ก็เห้นเป้นแสงสีขาว เหมือนรัศมี คุมครอบ คนๆนั้นไว้ แต่ถ้าวางโฟกัสสายตาผิด แสงจะหายไปทันที ผมเห้นของทุกคนคล้ายกัน คือออกสีขาว แต่จะชัดเข้ม จนแสบตา คลุมครอบไว้ประมาณ 2-3 นิ้วฟุต (ดีใจได้เห็น แล้ว อิอิ นึกว่าจะกินแห้วตลอด )
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ. คล้ายๆ กัน แต่ ของตัวเอง รัศมีจะน้อยกว่าคนอื่น
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียงอีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ. ที่ต่างก็คือ ทำลูกบอลได้ง่ายขึ้น เหมือนสร้างพลังได้ง่ายกว่าที่ยังไม่ได้ เจิมจุ่มจิ้ม ส่วนความรู้สึกอื่นๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ครับ
คาราวะ (น้ำชา ) อาจารย์ 1 จอก กรึ๊บ ถึงจะ ไม่มีความรู้สึกชัดเจนเก่งเหมือนคนอื่น แต่ก็จะพยายามทำไปตามเสต๊ป มึนทำไปเรื่อยๆ อิอิ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
และแล้ววันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ก็มาถึง ผู้ที่เดินทางมาถึงเป็นคนแรกคือคุณสัญชาติ เชียงการ และก็ทยอยกันเข้ามารายงานตัวกันเรื่อย ๆ จนครบ ก็เริ่มการฝึกสัมผัสพลัง บางคนก็สัมผัสได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
หลังจากนั้นก็ได้มีการฝังชิปหรือซิมลงในตัวผู้ที่เข้ารับการอบรม และก็ให้เริ่มสัมผัสพลังใหม่ คราวนี้การสัมผัสพลังงาน ทำได้ดีกว่าในครั้งแรกมากเลย ก็เริ่มที่จะมีการแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม โดยให้ 2 คนนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เป็นฝ่ายรับพลัง ส่วนคนอื่น ๆ ให้นั่งฝั่งตรงข้ามพร้อมส่งพลังไปให้ และก็เวียนสลับจนครบทุกคน
หลังจากนั้นก็มีการนั่งล้อมเป็นวงกลมแล้วก็มีการจับมือต่อกันเป็นวงกลมพร้อมทั้งมีการรับและปล่อยพลังกัน เสร็จแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นการต่อตัวเหมือนเล่นงูกินหาง โดยให้คนหัวแถวจับหินกายสิทธิ์รวมทั้งของพลังของหลวงปู่ผ่านเข้ามาทั้งหมดที่จับต่อ ๆ กัน แล้วก็ให้เวียนสลับกันจนครบทุกคน
จากนั้นมีการฝึกส่งพลังลงไปในน้ำ ทำให้รสชาติของน้ำดีขึ้นและมีพลังงานมากขึ้นด้วย มีการฝึกดูออร่าของเพื่อน ๆ และก็สามารถเห็นเป็นแบบต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน มีการฝึกดูออร่าของตัวเองในกระจก มีการฝึกสัมผัสพลังของลูกบอลที่อยู่ในมือ และก็มีการออกไปดูตัวอย่างนอกสถานที่ด้วย
เอาล่ะครับ ณ บัดนี้เพื่อนคนแรกคือ คุณธีระพงษ์ ซินโซ จะมาเล่าให้รู้ว่า ในวันที่ 21 มิ.ย. 52 เกิดอะไรขึ้น
แหม..ไม่มีการบ้านให้ลอกเลย ต้องจิ้มๆๆ ซะแล้วก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า อ.เอกณัฐยศ เป็นกันเองกะลูกศิษย์มาก เล่นขู่ ให้เสียว ให้หนาวก่อนไปฝึก ... แทบเตรียมเสื้อกันหนาวไปเลย อิอิ อ่ะๆๆส่งการบ้านคร๊าบช่วงเช้า 9.30-12.00 น.ก่อนอื่น สวดมนต์ไหว้พระครับ + รับซิมการ์ด จูนสัญญาณรับพลัง อิอิ แล้วก็เริ่มต้นฝึก
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย? แรกๆ ร่างกายปรับตัวยังไม่ทัน หายใจติดๆขัดๆ ต้องยกที่ 2-3 เริ่มคล่องขึ้น รู้สึกสมาธินิ่งมากขึ้น
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย? เริ่มคล่องขึ้น รู้สึกเบาในตัว สมาธินิ่งมากขึ้นครับ
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร? ครั้งแรกเหมือนมีเข็ม มีประจุไฟฟ้า วิ่งเข้ามาที่มือ แต่ยังไม่แรงมาก แต่พอขอพลังจากหลวงปู่ เริ่มรู้สึกว่า แรงมากขึ้นจริงๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน? แรกๆที่ฝึก คลื่นพลัง หรือลูกบอลจะยังเล็กๆอยู่ครับ แต่พอชำนวญขึ้น ก๋สามารถขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ส่วนความยืดยุ่น มันจะอธิบายยังไงดี มันหน่วงๆ หนืดๆ หยุ่นๆอยู่กลางฝ่ามือครับ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร? ตอนที่ฝึกจะหงายมือซ้ายรับพลังจากคนข้างซ้ายมือของเรา ส่วนมือขวา จะคว่ำไว้บนเพื่อนข้างขวาของเรา ตอนที่ฝึกจะสัมผัสได้ ถึงไออุ่นที่ไหลมาจากเพื่อนฝั่งซ้ายมือ และรู้สึกอุ่นที่มือขวา ที่ต่อพลังไปยังคนข้างขวาครับ
อ่า พักเที่ยงทานข้าวก่อนคร๊าบ 12.30-13.30 น. (เดี๋ยวให้ท่านอื่นแนะนำรายการอาหารนะคร๊าบ)ฝึกต่อครับ 13.30 - 16.30 น.
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร? ถ้าอยู่แถวหน้าๆ หรือยิ่งใกล้หินกายสิทธิ์ จะรับพลังได้มากและแรง เหมือนกระแสไหลเข้ามือเราแรงมาก ส่วนอยู่หลัง จะรับพลังได้น้อยลง คงอาจเพราะเพิ่งเริ่มฝึกกัน เลยยังไม่ชำนาญ (ในความคิดส่วนตัวนะครับ) แต่สามารถรับรู้ได้ พลังสามารถไหลผ่านกันได้ ขึ้นอยู่กับการดึงกระแส ของคนตนแถวครับ
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร ถ้าเป็นฝ่ายรับ ตอนที่ตอบรับ จะรู้สึกเหมือนมีอะไรเข้ามาที่ฝ่ามือ ส่วนถ้าเป็นฝ่ายให้ ก็จะรู้สึกมีพลังออกไปจากฝ่ามือครับ (แต่วันที่ฝึกยังไม่ชำนาญ จึงรู้สึกได้เพียงเล้กน้อย แต่ก้รู้สึกครับ)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร? ลักษณะของแสงที่เห็น จะขาว สว่างไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับว่า เราดูออร่าของใคร บางคน สว่างมากๆ บางคนก็สูงมาก บางคนก็ไม่สูงเท่าไหร่
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?ในส่วนของผมเอง ไม่แตกต่างจากคนอื่นเท่าไหร่ ก็คือ ขาว ไม่สูงมาก
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียง รอบๆตัวจะรู้สึกอึดอัด บรรยากาศครึ้มๆ นิดๆ มีลมพอสมควร ตอนนั้นฝนตกเล็กน้อย แต่พอสัพเพ 3 รอบ และอาราธนาเชิญหลวงปู่มา รู้สึกความอึดอัดลดลง แต่ไม่ได้หายไปหมด บรรยากาศโดยรอบ แจ่งใสขึ้น เพราะฝนหยุดปรอยปรายลงมา คงต้องฝึกบ่อยๆครับ ถึงจะสามารถอธิบายได้ดีกว่านี้
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไรขอบอกเลยว่า แตกต่างมาก ก่อนฝั่งชิปหรือซิม ไม่รู้สึกอะไรเลยที่ฝ่ามือ แต่พอฝังชิปหรือซิม สามารถรู้สึกที่ฝ่ามือได้เป็นอย่างดี แปลกมากครับ
ขออนุโมทนา ในการฝึกสอนของอ.เอกณัฐยศ เป็นยิ่งนัก ข้าน้อยขอคาราวะ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 2 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
หลังจากนั้นก็ได้มีการฝังชิปหรือซิมลงในตัวผู้ที่เข้ารับการอบรม และก็ให้เริ่มสัมผัสพลังใหม่ คราวนี้การสัมผัสพลังงาน ทำได้ดีกว่าในครั้งแรกมากเลย ก็เริ่มที่จะมีการแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม โดยให้ 2 คนนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เป็นฝ่ายรับพลัง ส่วนคนอื่น ๆ ให้นั่งฝั่งตรงข้ามพร้อมส่งพลังไปให้ และก็เวียนสลับจนครบทุกคน
หลังจากนั้นก็มีการนั่งล้อมเป็นวงกลมแล้วก็มีการจับมือต่อกันเป็นวงกลมพร้อมทั้งมีการรับและปล่อยพลังกัน เสร็จแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นการต่อตัวเหมือนเล่นงูกินหาง โดยให้คนหัวแถวจับหินกายสิทธิ์รวมทั้งของพลังของหลวงปู่ผ่านเข้ามาทั้งหมดที่จับต่อ ๆ กัน แล้วก็ให้เวียนสลับกันจนครบทุกคน
จากนั้นมีการฝึกส่งพลังลงไปในน้ำ ทำให้รสชาติของน้ำดีขึ้นและมีพลังงานมากขึ้นด้วย มีการฝึกดูออร่าของเพื่อน ๆ และก็สามารถเห็นเป็นแบบต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน มีการฝึกดูออร่าของตัวเองในกระจก มีการฝึกสัมผัสพลังของลูกบอลที่อยู่ในมือ และก็มีการออกไปดูตัวอย่างนอกสถานที่ด้วย
เอาล่ะครับ ณ บัดนี้เพื่อนคนแรกคือ คุณธีระพงษ์ ซินโซ จะมาเล่าให้รู้ว่า ในวันที่ 21 มิ.ย. 52 เกิดอะไรขึ้น
แหม..ไม่มีการบ้านให้ลอกเลย ต้องจิ้มๆๆ ซะแล้วก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า อ.เอกณัฐยศ เป็นกันเองกะลูกศิษย์มาก เล่นขู่ ให้เสียว ให้หนาวก่อนไปฝึก ... แทบเตรียมเสื้อกันหนาวไปเลย อิอิ อ่ะๆๆส่งการบ้านคร๊าบช่วงเช้า 9.30-12.00 น.ก่อนอื่น สวดมนต์ไหว้พระครับ + รับซิมการ์ด จูนสัญญาณรับพลัง อิอิ แล้วก็เริ่มต้นฝึก
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย? แรกๆ ร่างกายปรับตัวยังไม่ทัน หายใจติดๆขัดๆ ต้องยกที่ 2-3 เริ่มคล่องขึ้น รู้สึกสมาธินิ่งมากขึ้น
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย? เริ่มคล่องขึ้น รู้สึกเบาในตัว สมาธินิ่งมากขึ้นครับ
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร? ครั้งแรกเหมือนมีเข็ม มีประจุไฟฟ้า วิ่งเข้ามาที่มือ แต่ยังไม่แรงมาก แต่พอขอพลังจากหลวงปู่ เริ่มรู้สึกว่า แรงมากขึ้นจริงๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน? แรกๆที่ฝึก คลื่นพลัง หรือลูกบอลจะยังเล็กๆอยู่ครับ แต่พอชำนวญขึ้น ก๋สามารถขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ส่วนความยืดยุ่น มันจะอธิบายยังไงดี มันหน่วงๆ หนืดๆ หยุ่นๆอยู่กลางฝ่ามือครับ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร? ตอนที่ฝึกจะหงายมือซ้ายรับพลังจากคนข้างซ้ายมือของเรา ส่วนมือขวา จะคว่ำไว้บนเพื่อนข้างขวาของเรา ตอนที่ฝึกจะสัมผัสได้ ถึงไออุ่นที่ไหลมาจากเพื่อนฝั่งซ้ายมือ และรู้สึกอุ่นที่มือขวา ที่ต่อพลังไปยังคนข้างขวาครับ
อ่า พักเที่ยงทานข้าวก่อนคร๊าบ 12.30-13.30 น. (เดี๋ยวให้ท่านอื่นแนะนำรายการอาหารนะคร๊าบ)ฝึกต่อครับ 13.30 - 16.30 น.
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร? ถ้าอยู่แถวหน้าๆ หรือยิ่งใกล้หินกายสิทธิ์ จะรับพลังได้มากและแรง เหมือนกระแสไหลเข้ามือเราแรงมาก ส่วนอยู่หลัง จะรับพลังได้น้อยลง คงอาจเพราะเพิ่งเริ่มฝึกกัน เลยยังไม่ชำนาญ (ในความคิดส่วนตัวนะครับ) แต่สามารถรับรู้ได้ พลังสามารถไหลผ่านกันได้ ขึ้นอยู่กับการดึงกระแส ของคนตนแถวครับ
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร ถ้าเป็นฝ่ายรับ ตอนที่ตอบรับ จะรู้สึกเหมือนมีอะไรเข้ามาที่ฝ่ามือ ส่วนถ้าเป็นฝ่ายให้ ก็จะรู้สึกมีพลังออกไปจากฝ่ามือครับ (แต่วันที่ฝึกยังไม่ชำนาญ จึงรู้สึกได้เพียงเล้กน้อย แต่ก้รู้สึกครับ)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร? ลักษณะของแสงที่เห็น จะขาว สว่างไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับว่า เราดูออร่าของใคร บางคน สว่างมากๆ บางคนก็สูงมาก บางคนก็ไม่สูงเท่าไหร่
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?ในส่วนของผมเอง ไม่แตกต่างจากคนอื่นเท่าไหร่ ก็คือ ขาว ไม่สูงมาก
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียง รอบๆตัวจะรู้สึกอึดอัด บรรยากาศครึ้มๆ นิดๆ มีลมพอสมควร ตอนนั้นฝนตกเล็กน้อย แต่พอสัพเพ 3 รอบ และอาราธนาเชิญหลวงปู่มา รู้สึกความอึดอัดลดลง แต่ไม่ได้หายไปหมด บรรยากาศโดยรอบ แจ่งใสขึ้น เพราะฝนหยุดปรอยปรายลงมา คงต้องฝึกบ่อยๆครับ ถึงจะสามารถอธิบายได้ดีกว่านี้
อีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไรขอบอกเลยว่า แตกต่างมาก ก่อนฝั่งชิปหรือซิม ไม่รู้สึกอะไรเลยที่ฝ่ามือ แต่พอฝังชิปหรือซิม สามารถรู้สึกที่ฝ่ามือได้เป็นอย่างดี แปลกมากครับ
ขออนุโมทนา ในการฝึกสอนของอ.เอกณัฐยศ เป็นยิ่งนัก ข้าน้อยขอคาราวะ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 2 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
ป้ายกำกับ:
แก้วจักรพรรดิ,
ชิป,
ซิม 21/6/52,
บันทึก,
ฝึก,
ฝึกพลัง,
รับพลัง,
สัมผัส,
อบรม,
ออร่า
ทำไมจึงอยากมาเรียนการสัมผัสพลัง
เอาล่ะครับ คราวนี้เราก็จะได้รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร เพื่อน ๆ ทั้งหลายจึงอยากมาเรียนรู้วิธีสัมผัสพลังงาน
คนแรกคือคุณขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติ แนะนำตัวเลยครับ
ยินดีที่ได้รู้จักทั้งทีมงานผู้สอนและเพื่อนร่วมรุ่น ที่กรุณาสละเวลามาสอนและร่วมเรียนฝึกสัมผัสพลังงานนะครับ...
ผมขอเริ่มต้นลงบันทึกในกระทู้นี้ก่อนเรียนและส่งงานชิ้นแรกเลยนะครับ เพราะบางข้อสามารถตอบได้และเป็นเป้าหมายก่อนเรียนอยู่แล้ว...
1.ชื่อ: ขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติที่อยู่: 19/9 ซอยพร้อมพรรณ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
อาชีพ: โปรแกรมเมอร์
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
ผมเห็นว่า ถ้าเราสามารถสัมผัสพลังงานได้ จะเป็นการเพิ่มกำลังใจในการปฏิบัติ แผ่บุญ และปรับภพภูมิ อีกทั้งยังพัฒนาการปฏิบัติอย่างตรงจุดด้วย เช่น ถ้าบริเวณใดมีความหนาแน่นของวิญญาณสูง ถ้าเราสัมผัสได้เราก็สามารถ "ลงลึก" แผ่บุญอัญเชิญบารมีหลวงปู่รวมพลังพระมหาจักรพรรดิเพื่อปรับพลังงาน การแผ่บุญของเราก็ยิ่งมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของพื้นที่บริเวณนั้นมากขึ้นครับ!
คนที่ 2 คือคุณสัญชาติ เชียงการ
1.กระผม นายสัญชาติ เชียงการ ที่อยู่ตอนนี้อยู่บ้านพักของหลวงครับ ติดต่อที่ทำงานสะดวกสุดครับ ศาลจังหวัดนครพนมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ถ.อภิบาลบัญชา อ.เมือง จ.นครพนม 48000
ที่อยู่ตามบัตรประชาชนก็ 256/282 หมู่ 15 ถ.วินิจฉัยกุล ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 ครับ
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
โดยส่วนตัวแล้ว มีความเชื่อว่ามีพลังงานอยู่รอบตัวเรา แต่ก็ยังมีความลังเลสงสัยอยู่ในบางครั้ง อยากจะเรียนให้รู้และได้สัมผัสด้วยตนเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจและให้รู้ตามความเป็นจริงครับ
คนที่ 3 คือคุณธีระพงษ์ ซินโซ
1.ผมชื่อ ธีระพงษ์ ซินโซ ชื่อเล่น ต๊ะ ที่อยู่ (กทม) 201 ซ.เกตุนุติแยก2(ลาดพร้าว64) แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 แต่เป็นคนจังหวัดอุดรธานี
อาชีพ Warehouse Supervisor ก็ดูแลด้านคลังสินค้าพวกอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานทุกประเภทครับ
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนก็ได้ศึกษาธรรมะมาบ้าง (ประมาณเด็กอนุบาล)แต่ก็ยังไม่แจ่มชัด จนมาพบเวปแห่งนี้ ที่แต่ละคนล้วนมีบุญ มีบารมีธรรมต่างๆกัน เป็นประกายที่อยากเรียนรู้ อยากศึกษา อยากหาคำตอบของชีวิต อยากลึกซึ้งในธรรม ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้การจับพลัง เพื่อให้คลายหายสงสัย ในพลังงาน และ/หรือ ในสิ่งต่างๆที่เราไม่รู้ จะได้รู้ จะได้กระจ่าง จะได้หายสงสัย ไม่ปรามาสในสิ่งที่ไม่ควร และถ้าสามารถนำมาช่วยเหลือสรรพสิ่งที่รอคอยการช่วยเหลือ ยิ่งจะเป็นบุญเป็นกุศลต่อๆยิ่งขึ้นไป และน่าจะเป็นหนทางที่จะทำให้ตนเอง เร่งปฏิบัติ เร่งเรียนรู้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เริ่มทำ .... เวลาช่างเหลือน้อยลงทุกที
คนที่ 4 คือคุณณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
1. นาย ณัฐวุฒิ ชาวกัณหา 16/163 ม. พัทยากรีนวิล ซ.สยามคัลทรี่คลับ ต. หนองปรือ อ.บางละมุง ชลบุรี 20150
ค้าขาย
2. ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
น่าสนใจดี วิชาจับพลัง
คนที่ 5 คือ นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์
ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นเด็กที่มาร้องขอฝึกด้วยคน..ท่านอาจารย์เมตตารับ..ขอบคุณค่ะ
1. ชื่อ: นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์ที่อยู่: 34/80 หมู่บ้านชัยพฤกษ์-ตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา กทม.10170
อาชีพ: รับราชการ
2. ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง..สิ่งที่เห็น ที่รู้ เป็นจริงหรือคิดไปเองแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร (อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ)และจะพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างไร สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้หรือไม่ อย่างไร?
คนที่ 6 คือ คุณธัชมน ศรีแก่นจันทร์
เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ คอมพ์ที่บ้านเสีย เน็ตที่ทำงานก็ล่ม เลยไม่ได้เข้ามาติดตามโจทก์การบ้าน ......ดีที่น้องหญิง คณิตา ..... โทร.มาแจ้งข่าวให้รีบส่งการบ้าน....ด่วน เมื่อวานเลยไปขโมยใช้เน็ตที่ทำงานต่างจังหวัด ได้แป๊บ ๆ ทำการบ้านข้อ 3 ได้แค่ข้อเดียวก็หมดเวลา วันนี้เลยขอส่งการบ้านย้อนหลังข้อ 1 และข้อ 2 ค่ะ
ข้อ 1 ชื่อ ธัชมน นามสกุล ศรีแก่นจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 59/4 หมู่ 4 ถ.บางแวกคลองขวาง ภาษีเจริญ กทม. 10160
อาชีพ รับราชการ งานหลัก คือ สอนหนังสือ งานอดิเรกคือเล่นเน็ตค่ะ
ข้อ 2 ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้เพราะรู้สึกว่า เรื่องของพลังงานเป็นความจริงที่มีอยู่จริงในธรรมชาติที่วิธีวิทยาศาสตร์ที่เคยเรียนมายังเข้าไม่ถึง บางคนที่ไม่เคยรับรู้สัมผัสจึงมักปฏิเสธว่าพลังงานไม่มีจริง จึงอยากพิสูจน์ว่าสิ่งนี้มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่ผู้เรียนรู้ ผู้ปฏิบัติ ผู้ฝึกฝนน่าจะสัมผัส รับรู้ได้ ไม่ใช่สิ่งที่คิดขึ้นเองจากความเชื่อ หรืองมงาย
อ้อ! และเมื่อรับรู้สัมผัสพลังงานแล้ว อยากเรียนรู้วิธีนำพลังงานนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป ค่ะ
ทีนี้เราก็รู้แล้วสิว่า เพื่อน ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ต้องการเรียนการสัมผัสพลังเพราะอะไร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในการฝึกสัมผัสพลัง วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คนแรกคือคุณขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติ แนะนำตัวเลยครับ
ยินดีที่ได้รู้จักทั้งทีมงานผู้สอนและเพื่อนร่วมรุ่น ที่กรุณาสละเวลามาสอนและร่วมเรียนฝึกสัมผัสพลังงานนะครับ...
ผมขอเริ่มต้นลงบันทึกในกระทู้นี้ก่อนเรียนและส่งงานชิ้นแรกเลยนะครับ เพราะบางข้อสามารถตอบได้และเป็นเป้าหมายก่อนเรียนอยู่แล้ว...
1.ชื่อ: ขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติที่อยู่: 19/9 ซอยพร้อมพรรณ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
อาชีพ: โปรแกรมเมอร์
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
ผมเห็นว่า ถ้าเราสามารถสัมผัสพลังงานได้ จะเป็นการเพิ่มกำลังใจในการปฏิบัติ แผ่บุญ และปรับภพภูมิ อีกทั้งยังพัฒนาการปฏิบัติอย่างตรงจุดด้วย เช่น ถ้าบริเวณใดมีความหนาแน่นของวิญญาณสูง ถ้าเราสัมผัสได้เราก็สามารถ "ลงลึก" แผ่บุญอัญเชิญบารมีหลวงปู่รวมพลังพระมหาจักรพรรดิเพื่อปรับพลังงาน การแผ่บุญของเราก็ยิ่งมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของพื้นที่บริเวณนั้นมากขึ้นครับ!
คนที่ 2 คือคุณสัญชาติ เชียงการ
1.กระผม นายสัญชาติ เชียงการ ที่อยู่ตอนนี้อยู่บ้านพักของหลวงครับ ติดต่อที่ทำงานสะดวกสุดครับ ศาลจังหวัดนครพนมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ถ.อภิบาลบัญชา อ.เมือง จ.นครพนม 48000
ที่อยู่ตามบัตรประชาชนก็ 256/282 หมู่ 15 ถ.วินิจฉัยกุล ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 ครับ
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
โดยส่วนตัวแล้ว มีความเชื่อว่ามีพลังงานอยู่รอบตัวเรา แต่ก็ยังมีความลังเลสงสัยอยู่ในบางครั้ง อยากจะเรียนให้รู้และได้สัมผัสด้วยตนเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจและให้รู้ตามความเป็นจริงครับ
คนที่ 3 คือคุณธีระพงษ์ ซินโซ
1.ผมชื่อ ธีระพงษ์ ซินโซ ชื่อเล่น ต๊ะ ที่อยู่ (กทม) 201 ซ.เกตุนุติแยก2(ลาดพร้าว64) แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 แต่เป็นคนจังหวัดอุดรธานี
อาชีพ Warehouse Supervisor ก็ดูแลด้านคลังสินค้าพวกอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานทุกประเภทครับ
2.ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนก็ได้ศึกษาธรรมะมาบ้าง (ประมาณเด็กอนุบาล)แต่ก็ยังไม่แจ่มชัด จนมาพบเวปแห่งนี้ ที่แต่ละคนล้วนมีบุญ มีบารมีธรรมต่างๆกัน เป็นประกายที่อยากเรียนรู้ อยากศึกษา อยากหาคำตอบของชีวิต อยากลึกซึ้งในธรรม ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้การจับพลัง เพื่อให้คลายหายสงสัย ในพลังงาน และ/หรือ ในสิ่งต่างๆที่เราไม่รู้ จะได้รู้ จะได้กระจ่าง จะได้หายสงสัย ไม่ปรามาสในสิ่งที่ไม่ควร และถ้าสามารถนำมาช่วยเหลือสรรพสิ่งที่รอคอยการช่วยเหลือ ยิ่งจะเป็นบุญเป็นกุศลต่อๆยิ่งขึ้นไป และน่าจะเป็นหนทางที่จะทำให้ตนเอง เร่งปฏิบัติ เร่งเรียนรู้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เริ่มทำ .... เวลาช่างเหลือน้อยลงทุกที
คนที่ 4 คือคุณณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
1. นาย ณัฐวุฒิ ชาวกัณหา 16/163 ม. พัทยากรีนวิล ซ.สยามคัลทรี่คลับ ต. หนองปรือ อ.บางละมุง ชลบุรี 20150
ค้าขาย
2. ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
น่าสนใจดี วิชาจับพลัง
คนที่ 5 คือ นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์
ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นเด็กที่มาร้องขอฝึกด้วยคน..ท่านอาจารย์เมตตารับ..ขอบคุณค่ะ
1. ชื่อ: นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์ที่อยู่: 34/80 หมู่บ้านชัยพฤกษ์-ตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา กทม.10170
อาชีพ: รับราชการ
2. ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้
เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง..สิ่งที่เห็น ที่รู้ เป็นจริงหรือคิดไปเองแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร (อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ)และจะพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างไร สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้หรือไม่ อย่างไร?
คนที่ 6 คือ คุณธัชมน ศรีแก่นจันทร์
เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ คอมพ์ที่บ้านเสีย เน็ตที่ทำงานก็ล่ม เลยไม่ได้เข้ามาติดตามโจทก์การบ้าน ......ดีที่น้องหญิง คณิตา ..... โทร.มาแจ้งข่าวให้รีบส่งการบ้าน....ด่วน เมื่อวานเลยไปขโมยใช้เน็ตที่ทำงานต่างจังหวัด ได้แป๊บ ๆ ทำการบ้านข้อ 3 ได้แค่ข้อเดียวก็หมดเวลา วันนี้เลยขอส่งการบ้านย้อนหลังข้อ 1 และข้อ 2 ค่ะ
ข้อ 1 ชื่อ ธัชมน นามสกุล ศรีแก่นจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 59/4 หมู่ 4 ถ.บางแวกคลองขวาง ภาษีเจริญ กทม. 10160
อาชีพ รับราชการ งานหลัก คือ สอนหนังสือ งานอดิเรกคือเล่นเน็ตค่ะ
ข้อ 2 ทำไมจึงอยากมาเรียนรู้เพราะรู้สึกว่า เรื่องของพลังงานเป็นความจริงที่มีอยู่จริงในธรรมชาติที่วิธีวิทยาศาสตร์ที่เคยเรียนมายังเข้าไม่ถึง บางคนที่ไม่เคยรับรู้สัมผัสจึงมักปฏิเสธว่าพลังงานไม่มีจริง จึงอยากพิสูจน์ว่าสิ่งนี้มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่ผู้เรียนรู้ ผู้ปฏิบัติ ผู้ฝึกฝนน่าจะสัมผัส รับรู้ได้ ไม่ใช่สิ่งที่คิดขึ้นเองจากความเชื่อ หรืองมงาย
อ้อ! และเมื่อรับรู้สัมผัสพลังงานแล้ว อยากเรียนรู้วิธีนำพลังงานนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป ค่ะ
ทีนี้เราก็รู้แล้วสิว่า เพื่อน ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ต้องการเรียนการสัมผัสพลังเพราะอะไร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในการฝึกสัมผัสพลัง วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
รายชื่อผู้ที่เข้าทำ workshop 21/6/52
รายชื่อ ผู้ที่มาทำwork shop การสัมผัสพลังงาน มีดังนี้
1. ธีระพงษ์ ซินโซ ชื่อเล่น ต๊ะ iamtha
ที่อยู่ (กทม) 201 ซ.เกตุนุติแยก2(ลาดพร้าว64) แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 แต่เป็นคนจังหวัดอุดรธานี
อาชีพ Warehouse Supervisor ก็ดูแลด้านคลังสินค้าพวกอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานทุกประเภทครับ
2. ณัฐวุฒิ ชาวกัณหา ยามพัทยา
16/163 ม.พัทยากรีนวิล ซ.สยามคัลทรี่คลับ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
อาชีพ ค้าขาย
3. ขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติ โพธิญาณ
19/9 ซอยพร้อมพรรณ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
อาชีพ: โปรแกรมเมอร์
4. นายสัญชาติ เชียงการ พ่อน้องหนุน
ที่อยู่ตอนนี้อยู่บ้านพักของหลวงครับ ติดต่อที่ทำงานสะดวกสุดครับ ศาลจังหวัดนครพนมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ถ.อภิบาลบัญชา อ.เมือง จ.นครพนม 48000
ที่อยู่ตามบัตรประชาชนก็ 256/282 หมู่ 15 ถ.วินิจฉัยกุล ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 ครับ
5. นาวาโทหญิง คณิตา โชติทัตต์ kanita
34/80 หมู่บ้านชัยพฤกษ์-ตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา กทม.10170
อาชีพ: รับราชการ
6. ธัชมน นามสกุล ศรีแก่นจันทร์ thatch
อยู่บ้านเลขที่ 59/4 หมู่ 4 ถ.บางแวกคลองขวาง ภาษีเจริญ กทม. 10160
อาชีพ รับราชการ งานหลัก คือ สอนหนังสือ งานอดิเรกคือเล่นเน็ตค่ะ
เป็นการฝึกในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ที่ 51/146 บางใหญ่ซิตี้ นนทบุรี
เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 น.-16.30 น.
ป้ายกำกับ:
ฝึกสัมผัสพลัง,
พลังแก้วจักรพรรดิ,
พลังเหนือพลัง,
ลูกแก้ว,
workshop ฝึกพลัง
work shop การฝึกสัมผัสพลัง-แก้วจักรพรรดิ
พลังแก้วจักรพรรดิ
พลังงานมีอยู่จริง พลังงานมีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
ทุกคนสามารถรับรู้ สัมผัส และสามารถนำพลังงานเหล่านี้มาใช้เพื่อประโยชน์แก่ตัวเอง และผู้อื่นได้ หากเราได้เรียนรู้กระบวนการและขั้นตอน ต่างๆ เหล่านี้
สนใจรายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมที่ อ.เอกณัฐยศ โทร 089-7458432
ขบวนการในการฝึกเพื่อสัมผัสพลังงานนั้น เราจะมีวิธีการฝึกโดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
ปรับสภาพร่างกายเบื้องต้น
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก เป็นเวลา 5 วินาที จำนวน 5 รอบ
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก เป็นเวลา 8 วินาที จำนวน 8-10 รอบ
ปรับสภาพร่างกายขั้นกลาง
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์
ฝึกสร้างบอลพลังงาน
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ
ปรับพลังหยิน-หยาง
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม คลื่นพลัง อุ่นๆร้อนๆ ไหลผ่านฝ่ามือไป
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว ( พลังไหลผ่านคนต่อคน ยิ่งใกล้ยิ่งแรง )
ฝึกการรับ ส่ง พลังาน
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น (เปี่ยมสุข ทั้งผู้ให้และผู้รับคร๊าบ สวยใสกันถ้วนหน้า )
พิสูจน์ความสว่างของออร่า
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง
พลังงานมีอยู่จริง พลังงานมีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
ทุกคนสามารถรับรู้ สัมผัส และสามารถนำพลังงานเหล่านี้มาใช้เพื่อประโยชน์แก่ตัวเอง และผู้อื่นได้ หากเราได้เรียนรู้กระบวนการและขั้นตอน ต่างๆ เหล่านี้
สนใจรายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมที่ อ.เอกณัฐยศ โทร 089-7458432
ขบวนการในการฝึกเพื่อสัมผัสพลังงานนั้น เราจะมีวิธีการฝึกโดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
ปรับสภาพร่างกายเบื้องต้น
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก เป็นเวลา 5 วินาที จำนวน 5 รอบ
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก เป็นเวลา 8 วินาที จำนวน 8-10 รอบ
ปรับสภาพร่างกายขั้นกลาง
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์
ฝึกสร้างบอลพลังงาน
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ
ปรับพลังหยิน-หยาง
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม คลื่นพลัง อุ่นๆร้อนๆ ไหลผ่านฝ่ามือไป
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว ( พลังไหลผ่านคนต่อคน ยิ่งใกล้ยิ่งแรง )
ฝึกการรับ ส่ง พลังาน
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น (เปี่ยมสุข ทั้งผู้ให้และผู้รับคร๊าบ สวยใสกันถ้วนหน้า )
พิสูจน์ความสว่างของออร่า
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง
ป้ายกำกับ:
แก้วจักรพรรดิ,
ฝึกสัมผัสพลังงาน,
พลัง,
พลังแก้ว,
รับส่งพลัง,
ลูกบอล,
ออร่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)