จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ทำไม...จึงควร ทำบุญกับ พระพุทธศาสนา

มีคนเกี่ยงว่าทำไมต้องทำบุญกับพระพุทธศาสนาสัมมาอาชีพถึงจะดี ก็ขอตอบย้ำกันอีกครั้งว่า เพราะพระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญ เงินที่เราได้มา ถ้ามีพระสงฆ์เป็นผู้รับ เมื่อเอาไปใส่ในตู้บริจาคของค่าน้ำค่าไฟ ไม่ว่าพระสงฆ์จะทำอะไรก็แล้วแต่ เดี๋ยวนี้มันใช้ไฟทั้งหมดอันนี้ พระสงฆ์อยู่ในการปฏิบัติที่ครบองค์สงฆ์ วัน หนึ่งท่านทำกิจของท่านสิบอย่าง

คนที่ควายค่าน้ำค่าไฟไว้ ก็จะประสบความสำเร็จ ในเรื่องของการประกอบสัมมาอาชีพ และไม่มีกรรม ไม่มีเศษกรรมตกมาที่ตัวเอง ต้องบอกเลยว่า คนทั้งโลกไม่รู้ว่าเงินที่ทำมาหากิน แล้วทำไมอยู่มาถึงจุดหนึ่ง คนทุกคนในบ้านมีเหตุให้เป็นไป คือ มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนโดยที่ว่าก็ทำบุญนะ สร้างพระ สร้างศาลา ทำอะไรทุกอย่าง แต่ทำไมกรรมมันถึงยังเป็นตะกอนกรรมอยู่อีก ทุกคนแน่ใจไหมว่า แหล่งที่มาของเงินนั้นได้มาอย่างบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์

อ้าว… ยังมีคนไม่อยากทำบุญกับพระพุทธศาสนา อยากทำบุญสร้างโรงพยาบาล อยากทำบุญกับเด็กด้อยโอกาส อยากทำบุญกับคนที่ไม่มีจะกิน นั่นก็ถือว่าเงินของคุณยังไม่ถึงกับบุญ ที่เรียกว่าทำบุญกับผู้มีศีล
เพราะ ว่า

ทำบุญกับคนที่ไม่มีศีล 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำบุญกับคนที่มีศีลครั้งเดียว
ทำบุญกับคนที่มีศีล 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำกับสามเณรครั้งเดียว
ทำบุญกับสามเณร 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำบุญกับพระสงฆ์ครั้งเดียว
ทำบุญกับพระสงฆ์ 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำกับพระอรหันต์ครั้งเดียว
ทำบุญกับพระอรหันต์ 100 ครั้ง ก็ไม่เหมือนกับทำกับพระพุทธเจ้าครั้งเดียว
ทำบุญกับพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำสังฆทานครั้งเดียว

สังฆทาน ยิ่งใหญ่มากเหรอ ทำไมถึงทำบุญกับพระพุทธเจ้าถึง 100 ครั้ง ยังไม่เท่ากับ ทำสังฆทานเพียงครั้งเดียว มันใหญ่มากเพราะว่าสังฆทานเนี่ย พระทุกที่ทั้ง 4 ทิศสามารถใช้สังฆทานนี้ได้ จึงเรียกว่า “มหาสังฆทาน”

อย่าง แม่ชีทำบุญที่สนามหลวง แม่ทำบุญกับคนที่ไม่มีศีล ถามว่าแม่เบิกบานใจไหม แม่ก็เบิกบานใจ แต่ถามว่าแม่ได้อะไรจากตรงนั้นไหม แม่ได้ความสุขใจแป๊บนึง แต่พอแม่มาทำบุญกับพระหลายๆ รูป เป็นพันๆ องค์ หมื่นๆ องค์ แม่รู้สึกเลยว่าแม่สัมผัสได้ว่า เราน้ำตาไหลไม่หยุด น้ำตาเราไหลไม่หยุด มันเหมือนกับเราปีติ เวลาพระให้พรทีนึงเรารู้ได้เลยว่าเราได้

แล้วการนั่งสมาธิหรือว่าการพูดหรือการรู้ มันก็แบบว่ากว้างไปอีก กว้างออกไปอีก ตัวรู้นะ ตัวปัญญานะ มันกว้างออกไปอีก ธรรมดาเราก็รู้อยู่แล้ว พอเราทำบุญกับพระ ปีหนึ่งทำบุญกับพระอย่างเช่น พุทธมณฑลอย่างนี้ จะมีพระรับปริญญาทั่วโลกที่มาที่พุทธมณฑล พอแม่ทำครั้งหนึ่ง 4 วัน เช้าเพล เช้าเพล เช้าเพล

พอหลังจากทำเสร็จ แม่ก็มานั่งเจริญกรรมฐาน กรรมฐานแม่เปลี่ยนไปเลยนะ…
กรรมฐานจากที่เรานั่งเราก็นิ่งอยู่แล้วเราก็ปรกติอยู่แล้ว แต่มันทำให้สมาธิเราคมชัดมากขึ้นอีก

ลูก ศิษย์ที่รู้ว่าแม่ทำบุญเขาจะมาช่วยแม่ประมาณ 300-400 คน เพราะแม่ทำคนเดียวไม่ได้ ใน 300-400 คน ก็มีบุญร่วมกัน คนนี้เป็นหนี้มากแม่บอกว่าไปล้างหม้อ ล้างชามแล้วอธิษฐานไป เป็นหนี้กรรมกับใครเรื่องการเงิน เป็นหนี้เรื่องกรรมอะไรอย่างนี้

ขอล้างถ้วยล้างชาม ในการปฏิบัติกับพระสงฆ์ในครั้งนี้ ส่งผลเป็นบุญให้คนที่เคยเป็นหนี้รับบุญด้วย แล้วหลังจากที่ทำแล้วเขาประสบความสำเร็จนะ หนี้เขาก็หลุด ชีวิตเขาก็ดีขึ้น เขาทำงานแค่วันละ 200 นะ เขาทำงานแค่วันละ 200 แล้วมาเจอกันใหม่ เขาสดใสขึ้น ดีขึ้น

ทุกคนก็จะจ้องมาว่า แม่จะมีอะไรให้ทำ คนนี้ปอกผลไม้ ปอกกันตั้งแต่ตี 2 เช้าขึ้นมาบุญที่เราทำ พระจะต้องมาฉันเช้าตอนประมาณ 7 โมง 6 โมงของทุกอย่างต้องขึ้นโต๊ะ 400 กว่าโต๊ะ ซึ่งแม่ทำคนเดียวไม่ได้ แล้วทุกคนไม่ง่วง ไม่ง่วงเพราะบุญ บุญของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ไม่ง่วงไม่ต้องกินกาแฟ ไม่ต้องกินอะไร แต่ว่าเพราะบุญทำให้ไม่ง่วง

ส่วนคนที่เลือกทำกับอย่างอื่นก็ยังได้บุญอยู่ แต่ว่าผลของบุญนั้นมันน้อย เห็นเขามีกินแล้วสุขใจก็ถือว่าเป็นบุญ แต่ บุญของพระพุทธศาสนา บุญของพระสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญ มันมากกว่าเพราะว่าพระท่านนุ่งห่มผ้าเหลือง ท่านเจริญวิปัสสนากรรมฐานอย่างนี้ ส่งผลเป็นบุญมหาศาล แม่เห็นในขณะที่พระนั่งฉันอยู่ แม่ก็นั่งอยู่ข้างล่าง พระท่านนั่งอยู่ที่อาสน์สงฆ์

ก่อนที่ท่านจะฉันข้าว ท่านจะถวายข้าวพระพุทธก่อน พอถวายข้าวพระพุทธเสร็จแล้วท่านถึงจะลาข้าวพระพุทธเพื่อให้ท่านฉัน ถ้าแปลเป็นความหมายว่า อาหารที่ได้มาไม่ได้ฉันเพื่อความเมามันกำลัง ฉันไปเพื่อการประพฤติดีปฏิบัติชอบ พอท่านฉันเสร็จ พระรูปแรกที่อยู่หัวแถว จะพูดเป็นภาษาบาลีว่า “ยถา” พอ “ยถา” ตรงนี้ปุ๊บอาหารที่ท่านฉันไปเป็นเหมือนสายน้ำ เป็นแม่น้ำเลยนะ เป็นน้ำเป็นสายเลย แล้วใครที่ใส่บาตรไว้ บุญมันสำเร็จเลย

แต่ คนที่ใส่บาตรมักจะไม่ค่อยกรวดน้ำ คนที่ใส่บาตรเสร็จแล้วมักจะไม่ค่อยกรวดน้ำ ถามว่าไม่กรวดน้ำแล้วโมฆะ ไม่โมฆะ กรวดวันนี้ก็ได้ ใส่บาตรมา 10 ปีไม่เคยกรวดน้ำ มันก็เหมือนว่า เอ๊..เราใส่บาตรทุกวันทำไมเราทำดีแล้วยังไม่มีคนเห็นในความดีของเรา ก็เพราะเราไม่ได้ยินดีในบุญที่เราทำ เราต้องยินดีในบุญที่ทำไม่ใช่ว่า ทำเพราะเขาทำกันมานานแล้ว ถ้าวันไหนไม่ใส่ก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ อะไรอย่างนี้ มันเป็นกิจวัตรที่จะต้องทำ แต่ไม่ได้ใส่ใจในบุญ ต้องใส่ใจในบุญว่า

บุญที่ใส่ไป เราต้องกรวดน้ำ แต่ว่าถ้าการนั่งกรรมฐานไม่ต้องใช้น้ำกรวด อ่านหนังสือเบิกบุญแม่แล้วเขาบอก กรวดน้ำตั้งหลายขวดกว่าจะหมดเพราะมันยาว ถ้าหนังสือแม่ไม่ต้องกรวดน้ำใช้อธิษฐานเอา แต่บุญที่ถวายสังฆทานหรือบุญที่ทำบุญกับพระสงฆ์ด้วยอาหาร ต้องกรวดน้ำบุญมันจะได้สำเร็จเลย

โดย ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรร

จากหนังสือ ธรรมะ ค้าขายดี

คู่มือชีวิต ปิดทางจน สำหรับคนทุกอาชีพ

เปิดให้บูชา หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้ รุ่นพิเศษ บรรจุไหลน้ำพี้