เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณขวัญชัย หิรัญอุดมเกียรติ
มาแล้วครับ... ขออภัยที่วันนี้โพสรายงานสายเพราะเพิ่งกลับจากการประชุมงาน (ดึกมาก..กก กว่าจะเลิกประชุมปาเข้าไปตี 1 กลับมาถึงบ้านก็เกือบตี 2 แล้ว)
ขอส่งการบ้านชิ้นแรกก่อนครับ ส่วนที่ อ.เอกฯ ถามเพิ่มเติมผมขอตอบวันพรุ่งนี้นะครับ.. ง่วงแล้ววว
ขอบันทึกการฝึกสัมผัสพลังงานกับ อ.เอก และเพื่อนๆ (ในบรรยากาศสบายๆ กับโปรแกรมมันส์ๆ และฮาตลอดรายการ) ณ บ้าน 51/146 ตลาดบางใหญ่ซิตี้ครับ…
ผมไปถึงก็เลยเวลานัดแล้ว (พูดง่ายๆ ก็สายน่ะแหละ) ไปประมาณ 20 นาที... พอไปถึง อ.เอก กำลัง “ฝังชิป” โดยเอาเหล็กจารมาลงนิ้วทั้ง 10 ของผู้เข้ารับการฝึกทุกท่าน และลงกระหม่อมและหน้าผาก จากนั้นก็เริ่มโปรแกรมการจับพลังงานเลยครับ
การฝึกที่ 1: นั่งสมาธิโดยหงายมือขึ้นวางบนเข่า ไม่ต้องกำหนดลมหายใจ เพียงแค่ใช้จิตจดจ่ออยู่กับมือทั้งสองข้างเท่านั้น ประมาณ 10 นาที อ.เอกก็สอบถามความรู้สึกของทุกๆ คน ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าเหมือนมือทั้งสองข้างอุ้มเสากลมๆ อ้วนๆ เป็นแท่งๆ และนิ้วมือรู้สึกเต้นจิ๊บๆ ทั้งสิบนิ้วรู้สึกได้มากที่สุดตรงบริเวณที่ถูกฝังชิป
การฝึกที่ 2: นั่งสมาธิโดยทำเหมือนกับคอร์สแรกเลย แต่ต่างกันตรงที่ให้กำหนดจิตว่า “ขอพลังงานจงเข้ามาๆ ๆ ” ที่เหลือเหมือนกับคอร์สแรกครับ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าปลายนิ้วจะสลับแปล๊บๆ สลับกันไปทั้งมือซ้ายและขวา (เหมือนไฟบนหน้าปัดควบคุมในหนังแนวไฮไฟนั่นแหละครับ) และทุกๆ ครั้งที่ปลายนิ้วแปล๊บๆ สลับกันนั้น รู้สึกเหมือนมีพลังวิ่งเข้าเส้นเอ็นข้อมือแว้บๆ ตลอด..
การฝึกที่ 3: ให้เอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน แล้วมองภาพหลวงปู่ (จะมองรูปหล่อนั่งดวง ล.ป.ดู่ หรือรูป ล.ป. ทวดที่แขวนบนผนังก็ได้) โดยให้จับและมองภาพเฉยๆ
ความรู้สึกของผม: ผมเลือกมองภาพ ล.ป.ทวดที่แขวนอยู่ (เพราะเห็นชัดดีครับ) รู้สึกว่าก้อนหินที่จับว่าเย็นแล้ว แต่มือเราเย็นกว่าอีก (เย็นเหมือนมือเป็นน้ำแข็ง) และบางครั้งรู้สึกมือกระตุกด้วย
การฝึกที่ 4: ทำเหมือนการฝึกที่ 3 แต่เพิ่มการกำหนดคาบลมหายใจ โดยเมื่อหายใจเข้า ให้หยุดและนับ 1-5 วินาที จากนั้นปล่อยลมหายใจออกแล้วหยุดนับ 1-5 เพียงแต่ในขณะที่สูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานในใจว่า "ขออัญเชิญพลังกายสิทธิ์จากหลวงปู่เข้ามา" ส่วนตอนหายใจออกไม่ต้องอธิษฐานอะไรครับ ให้ทำอย่างนี้ 5 รอบ หลังจากนั้นนับคาบลมหายใจโดยเพิ่มเป็นนับ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: การสูดลมหายใจครั้งแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอครั้งที่ 3-5 ระหว่างสูดลมหายใจเข้าและกำหนดจิตขอพลังเข้ามา รู้สึกว่าบริเวณฝ่ามือเย็นวาบไปหมด และรู้สึกว่ามีพลังหนาๆ มากๆ ถูกดึงดูดเข้ามาที่ตัวผ่านมือทั้งสองข้าง (แต่พลังที่เข้ามาไม่เย็นนะครับ อุณหภูมิปกติ)
การฝึกที่ 5: เอามือปั้นๆ เหมือนกำลังจับลูกบอลกลมๆ หลังจากนั้นให้นั่งสมาธิทำมือเหมือนประคองลูกบอลนั้นและกำหนดคาบลมหายใจเหมือนการฝึกที่ 4 เวลาหายใจเข้าให้ทำมือขยายลูกบอลไปตามการสูดลม เวลาหายใจออกให้หดมือลงตามแรงลมหายใจ
ความรู้สึกของผม: รู้สึกว่าเหมือนตัวเองประคองลูกบอลอยู่ในมือจริงๆ พอหลับตาแล้วเห็นว่ามีลูกบอลใส 2 ชั้นซ้อนกันอยู่ และลูกบอลทั้งสองมีลายเป็นริ้วขาวๆ เหมือนก้อนเมฆหมุนริ้วๆ ไปมา รู้สึกถึงว่าเวลาผ่อนลมหายใจออกแล้วหดมือลง ลูกบอลมันแน่นจนหดมือไม่ลงเลยครับ รู้สึกเหมือนมีแรงแน่นๆ ดันมืออยู่...
การฝึกที่ 6: เอาแก้วใส่น้ำมาวาง เอามือประคองลูกบอลเหมือนการฝึกครั้งที่แล้วให้อยูเหนือแก้วน้ำ และระหว่างสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า “ขอพลังสุขภาพดี จงสถิตอยู่ในน้ำแก้วนี้” แล้วนับคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: ตอนประคองลูกบอลอยู่ รู้สึกว่ากดมือเข้าหากันยาก แต่พออธิษฐานให้พลังงานสุขภาพดีลงไปในน้ำ ร็สึกว่ามีพลังอยู่เหนือน้ำ เพราะสังเกตเห็นว่าผิวน้ำกระเพื่อมนิดๆ
การฝึกที่ 7: นั่งรวมตัวกันเป็นวง เอามือแตะคนข้างซ้ายและขวา โดยมือข้างซ้ายคว่ำลง(รับพลัง) ส่วนมือขวาหงายขึ้น (ส่งพลัง) จากนั้นทรงภาพหลวงปู่ และสวดพระคาถาจักรพรรดิในใจ
ความรู้สึกของผม: ผมรู้สึกว่าการนั่งรวมตัวกัน ทำให้ทรงภาพหลวงปู่ได้ง่ายขึ้น และเร็วมากๆ ด้วย เพราะแค่ อ.เอกฯ บอกให้ทรงภาพหลวงปู่เท่านั้น ภาพขึ้นติดหน้าผากผมตามมาทันที (สุดยอดๆ ๆ ๆ ) และรู้สึกว่ามือซ้ายที่รับพลังงานจะชา ส่วนมือขวาที่ส่งพลังงานมีกระแสไฟฟ้าเต้นยิบๆ เหมือนจับวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้าสถิตตลอดเวลา
การฝึกที่ 8: ฝึกการส่งต่อพลังงาน โดยให้ยืนเข้าแถวและเอามือแตะบ่าคนข้างหน้าเหมือนเล่นงูกินหาง โดยหัวแถวเอามือจับก้อนหินกายสิทธิ์ข้างละก้อน ตาจับจ้องที่ภาพหลวงปู่ทวดที่แขวนบนผนัง กำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที ตอนสูดลมหายใจเข้าให้อธิษฐานว่า "ขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่จงเข้ามา และส่งต่อๆ ไป" ทำแบบนี้ซ้ำๆ 5 คาบลมหายใจ จากนั้นก็ออกไปต่อท้ายแถวให้ผู้ที่อยู่ข้างหลังทำเช่นเดียวกันต่อๆ กันไปจนครบ
ความรู้สึกของผม: ตอนอยู่ข้างหน้า เมื่อสูดลมหายใจเข้าและอธิษฐานขออัญเชิญพลังจากหลวงปู่เข้ามา.. รู้สึกว่ามีพลังหนาๆ เย็นๆ ถูกดูดเข้าจากมือทั้งสองข้างไหลเข้าไปในตัว และวิ่งต่อไปข้างหลัง ตอนต่อท้ายแถว รู้สึกว่ามือเหมือนดูดพลังแรงขึ้น แต่พลังที่เข้าสู่มือตอนอยู่ท้ายแถวน้อยกว่าตอนอยู่หัวแถว (ตอนอยู่ท้ายๆแถว ผมจึงแอบทำเพิ่มด้วยการมองภาพหลวงปู่และอธิษฐานขอพลังส่งต่อๆ เข้ามาด้วยครับ เร่งพลังหน่อยเพราะมีน้อย อิอิ)
การฝึกที่ 9: มีอาสาสมัคร 1 ท่าน ไปนั่งพิงผนังอยู่ ส่วนผู้เข้าฝึกที่เหลือจ้องไปที่จมูกของอาสาสมัคร พร้อมกับกำหนดลมหายใจนับ 1-8 วินาที จำนวน 5 คาบลมหายใจ จากนั้นให้มองไปที่เหนือศีรษะของอาสาสมัคร 1 คืบ จากนั้นทุกคนก็สลับกันไปนั่ง
ความรู้สึกของผม: แต่ละคนมี “ออร่า” รูปร่างไม่เหมือนกัน บางท่านผมเห็นเป็นแสงสว่างสีขาวรอบตัว บางท่านเห็นเพียงวงๆ ของศีรษะยืดๆ รูปทรงไม่แน่นอน บางท่านมีรัศมีรอบศีรษะ บางท่านผมเห็นเป็นคล้ายๆ หมวกยอดแหลมๆ เป็นสามเหลี่ยมแบนๆ เตี้ยๆ
การฝึกที่ 10: นั่งส่องกระจก โดยทำเหมือนการฝึกที่ 8 แต่มองหน้าตัวเองเท่านั้น
ความรู้สึกของผม: ผมเห็น “ออร่า” ของตัวเองเป็นรูปทรงคน และบริเวณใบหน้าเห็นตา + จมูกชัดเจน แถมหันจากซ้ายไปขวาด้วย (เออ... แปลกดี ออร่าก็ขยับได้ อิอิ)
การฝึกที่ 11: จับพลังลูกแก้วจักรพรรดิ จำนวน 2 ลูก (อ.เอกให้ทุกคนดูแลให้ดี บอกเป็นเหมือน “บัดดี้” แถมให้ตั้งชื่อให้แต่ละลูกด้วย) โดยใช้นิ้วโป้ง, นิ้วชี้ และนิ้วกลางประคองลูกแก้วบนมือแต่ละข้าง จากนั้นนับคาบลมหายใจ 1- 8 วินาที
ความรู้สึกของผม: รู้สึกลูกแก้วสั่นถี่ๆ เหมือนโทรศัพท์ที่เปิดระบบสั่งนไว้ แต่ความถี่สูงกว่ามาก (ผมตั้งชื่อบัดดี้ของผมแล้วล่ะ.. ชื่อ "เงิน" กับ "ทอง" อิอิ พกติดตัวตลอดเวลาจะได้รวยๆ มีเงินมีทองติดตัวตลอดเวลา 555)
การฝึกที่ 12: รับพระผงจักรพรรดิ รูปสมเด็จองค์ปฐมคนละ 2 องค์ เขียนด้านหลังแต่ละองค์ว่า “พระปัญญา” กับ “พระสติ” และเขียนชื่อของตัวเองลงไปข้างล่างคำทั้งสอง และประคองไว้ที่มือทั้งสองข้างกับกำหนดคาบลมหายใจ 1-8 วินาที
ความรู้สึกของผม: มีกระแสไฟฟ้าที่ปลายนิ้วที่แตะพระผงจักรพรรดิ
การฝึกที่ 13: ออกไปสัมผัสพลังงานนอกสถานที่ (เป็นการฝึกซ้อมในการฝึกสัมผัสพลังงานตามที่ต่างๆ และวางลูกแก้ว) โดย 1. หลับตาและสัมผัสพลังงานรอบตัว 2. ลืมตาและมองไปรอบๆ เหมือนบันทึกภาพไว้ 3. สวดสัพเพฯ อธิษฐานของหลวงปู่รวมพลังปรับภพภูมิ 4. สัมผัสพลังงานแบบ 1-2 อีกครั้งหนึ่งแล้วสังเกตความแตกต่าง
ความรู้สึกของผม: ตอนแรก หลังจากหลับตาแล้วพอลืมตาเห็นรอบบริวเณเป็นสีแดงๆ เหมือนมีใครเอาฟิลเตอร์สีแดงมาครอบเลนส์ หลังจากหลับตาสวดสัพเพฯ อธิษฐานและทรงภาพหลวงปู่แล้ว ระหว่างนั้นสีก็เปลี่ยนเป็นสีส้ม และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้าๆ พอลืมตาปรากฎว่ารอบบริเวณสดใสขึ้นและเป็นสีออกฟ้าๆ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 4 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับแก้วจักรพรรดิ์,การปฎิบัติสมาธิ และ ,ตรวจพลังพระเครื่องด้วยแพนดูลั่มพลังจิต
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บันทึกการฝึกสัมผัสรับพลัง2-แก้วจักรพรรดิ 21/6/52
เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 2 ซึ่งก็คือ คุณณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
ก่อนนอื่นขอบอกว่า ผมจะไม่ค่อยมีสัมผัส แบบพิเศษๆ เหมือนของคนอื่นอีกทั้งจะ ไม่มีค่อยมีความรู้สึกแบบที่คนอื่นเขารู้สึก ที่เขาบอกได้แบบชัดเจนว่า เออ แบบนี้ แบบนั้น อ่านไปแล้วอาจจะธรรมดา สามัญไปหน่อย แต่ก็จะเขียนจากความรู้สึกที่ สัมผัสได้จริง ไม่มั่วนิ่มแน่นอน ผมเป้นคนที่จะจำลายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงๆ จะลืมหมด อันนี้เป้นมาตลอดชีวิต เรื่องตอนเรียนชั้นประถม มัธยม ปีที่แล้ว แม้แต่เมื่อวาน จะลืมแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่จดใส่กระดาษไว้ตอนนั้นๆ ลืมหมด ดั่งนี้ ได้เข้าใจว่า ไม่ใช่ไม่อยากเขียน แต่ มันจำไม่ได้ แต่ก็จะขอเล่า ภาพรวมว่าเป้นอย่างไร และ จับความรู้สึกอะไรได้บ้าง
โอ มี หัวข้อแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ .ใจจะนิ่งลง เร็ว ( เพราะมัวไปจดจ่อกับ การอั้นลม)ร่างกาย พลังคล้ายๆ จะรวมคือรู้สึกมีพลังก่อเกิด ขึ้นในร่าง
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ . ตอนแรกๆ ใจจะระรัวเร็ว และค่อนข้างอึดอัด แต่ถ้าเริ่มชินและจัดระเบีบ การหายใจให้ สอดคล้อง ก็จะรวมจิต และพลังงาน ได้ดีเหมือนกัน
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ . รู้สึกว่า หินมีการดึงดูดมือเล็กน้อย เหมือนว่ามีอะไรดูดไว้ที่นิ้วเบา ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ. ข้อนี้ จะตอบได้ชัดเจนหน่อย เพราะลูกบอลแบบนี้เคยเล่นมาก่อน ลูกบอลของผม แล้วแต่ว่า ใจจะให้ลูกขนาดไหนก็ได้ แต่ ถ้าลูกเล็กๆ จะมีความเหนียวหยุ่นกว่า แล้วก็ถ้าเอานิ้วมาใกล้ๆกัน จะรู้สึกได้ เลยว่า มีอะไรวิ่งระหว่างนิ้วไป ผ่านไป ตรงกลางใจมือ ทั้งสองข้าง เหมือนมีเส้น เชื่อมโยงกันไว้ รู้สึกแปร๊ป ๆ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ. ผมจับความรู้สึกการหมุนเวียนไม่ได้เลย แต่รู้สึกว่า มือที่จับกับ อ.โอ๋ ทางด้านขวา อุ่นมาก ทางซ้าย กับ น้องหมวยไม่ค่อยอุ่น
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ. แรกเลยผมอยู่ กลางแถว ระหว่างกลางแถว จนถึงตอนที่ไปอยู่หัวแถว (ซึ่งจะเป้นคนที่จับก้อนหินนั้น แทบไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอเปลี่ยนมาอยู่ท้ายแถว เหมือนว่า มือที่จับไหล่อาจารย์ โอ๋ มีความอุ่นมาก
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ . ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าต่างกัน (คือไม่ได้รู้สึกอะไรเลย)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ . ข้อนี้ บอกได้เลยว่า มหัศจรรย์ มาก ทีแรกๆ ก้มองไม่เป้นก็เลยคิดว่า อา... คงกินแห้วอีกแล้ว ในรอบนี้ แต่พอถึงคนที่4 เห้นแสงขาวๆ แว๊ปๆ ตรงจุดที่ อ.เอกให้มอง (เหนือหัว1 ผ่ามือ ก็เห้นเป้นแสงสีขาว เหมือนรัศมี คุมครอบ คนๆนั้นไว้ แต่ถ้าวางโฟกัสสายตาผิด แสงจะหายไปทันที ผมเห้นของทุกคนคล้ายกัน คือออกสีขาว แต่จะชัดเข้ม จนแสบตา คลุมครอบไว้ประมาณ 2-3 นิ้วฟุต (ดีใจได้เห็น แล้ว อิอิ นึกว่าจะกินแห้วตลอด )
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ. คล้ายๆ กัน แต่ ของตัวเอง รัศมีจะน้อยกว่าคนอื่น
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียงอีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ. ที่ต่างก็คือ ทำลูกบอลได้ง่ายขึ้น เหมือนสร้างพลังได้ง่ายกว่าที่ยังไม่ได้ เจิมจุ่มจิ้ม ส่วนความรู้สึกอื่นๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ครับ
คาราวะ (น้ำชา ) อาจารย์ 1 จอก กรึ๊บ ถึงจะ ไม่มีความรู้สึกชัดเจนเก่งเหมือนคนอื่น แต่ก็จะพยายามทำไปตามเสต๊ป มึนทำไปเรื่อยๆ อิอิ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
ก่อนนอื่นขอบอกว่า ผมจะไม่ค่อยมีสัมผัส แบบพิเศษๆ เหมือนของคนอื่นอีกทั้งจะ ไม่มีค่อยมีความรู้สึกแบบที่คนอื่นเขารู้สึก ที่เขาบอกได้แบบชัดเจนว่า เออ แบบนี้ แบบนั้น อ่านไปแล้วอาจจะธรรมดา สามัญไปหน่อย แต่ก็จะเขียนจากความรู้สึกที่ สัมผัสได้จริง ไม่มั่วนิ่มแน่นอน ผมเป้นคนที่จะจำลายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าเรื่องไม่สำคัญจริงๆ จะลืมหมด อันนี้เป้นมาตลอดชีวิต เรื่องตอนเรียนชั้นประถม มัธยม ปีที่แล้ว แม้แต่เมื่อวาน จะลืมแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่จดใส่กระดาษไว้ตอนนั้นๆ ลืมหมด ดั่งนี้ ได้เข้าใจว่า ไม่ใช่ไม่อยากเขียน แต่ มันจำไม่ได้ แต่ก็จะขอเล่า ภาพรวมว่าเป้นอย่างไร และ จับความรู้สึกอะไรได้บ้าง
โอ มี หัวข้อแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
1. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 5 วินาที 5 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ .ใจจะนิ่งลง เร็ว ( เพราะมัวไปจดจ่อกับ การอั้นลม)ร่างกาย พลังคล้ายๆ จะรวมคือรู้สึกมีพลังก่อเกิด ขึ้นในร่าง
2. ฝึกรับพลัง กั้นหายใจเข้า-ออก 8 วินาที 8-10 รอบทำแล้วรู้สึกอย่างไรในร่างกาย?
ตอบ . ตอนแรกๆ ใจจะระรัวเร็ว และค่อนข้างอึดอัด แต่ถ้าเริ่มชินและจัดระเบีบ การหายใจให้ สอดคล้อง ก็จะรวมจิต และพลังงาน ได้ดีเหมือนกัน
3. ฝึกจับพลังจาก หินกายสิทธิ์ ฝึกแล้วรู้สึกอย่างไร?
ตอบ . รู้สึกว่า หินมีการดึงดูดมือเล็กน้อย เหมือนว่ามีอะไรดูดไว้ที่นิ้วเบา ๆ
4. ฝึกจับพลัง โดยใช้มือ 2 ข้าง วางใกล้ชิดกัน เหมือนมีลูกบอล หรือ มีคลื่นบางอย่างที่ยืดหยุ่น อยู่ระหว่างฝ่ามือ ลูกบอลเป็นอย่างไร ใหญ่เล็ก อ่อนแข็งแค่ไหน?
ตอบ. ข้อนี้ จะตอบได้ชัดเจนหน่อย เพราะลูกบอลแบบนี้เคยเล่นมาก่อน ลูกบอลของผม แล้วแต่ว่า ใจจะให้ลูกขนาดไหนก็ได้ แต่ ถ้าลูกเล็กๆ จะมีความเหนียวหยุ่นกว่า แล้วก็ถ้าเอานิ้วมาใกล้ๆกัน จะรู้สึกได้ เลยว่า มีอะไรวิ่งระหว่างนิ้วไป ผ่านไป ตรงกลางใจมือ ทั้งสองข้าง เหมือนมีเส้น เชื่อมโยงกันไว้ รู้สึกแปร๊ป ๆ
5. ฝึกถ่ายพลัง เป็น วงกลม รู้สึกพลังหมุนเวียนเป็นอย่างไร?
ตอบ. ผมจับความรู้สึกการหมุนเวียนไม่ได้เลย แต่รู้สึกว่า มือที่จับกับ อ.โอ๋ ทางด้านขวา อุ่นมาก ทางซ้าย กับ น้องหมวยไม่ค่อยอุ่น
6. ฝึกจับพลังจากหิน เป็นแถว อยู่หน้าและอยู่หลัง พลังไหลผ่านอย่างไร?
ตอบ. แรกเลยผมอยู่ กลางแถว ระหว่างกลางแถว จนถึงตอนที่ไปอยู่หัวแถว (ซึ่งจะเป้นคนที่จับก้อนหินนั้น แทบไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอเปลี่ยนมาอยู่ท้ายแถว เหมือนว่า มือที่จับไหล่อาจารย์ โอ๋ มีความอุ่นมาก
7. ฝึกรับ-ถ่ายพลังให้คนอื่น แล้วรับรู้พลังการรับและการส่งแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ . ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าต่างกัน (คือไม่ได้รู้สึกอะไรเลย)
8. ฝึกดูออร่า คนอื่น แจ้งด้วยว่าที่เห็นออร่าของแต่ละคน สูง ยาว สว่าง หรือเล็ก แค่ไหนอย่างไร?
ตอบ . ข้อนี้ บอกได้เลยว่า มหัศจรรย์ มาก ทีแรกๆ ก้มองไม่เป้นก็เลยคิดว่า อา... คงกินแห้วอีกแล้ว ในรอบนี้ แต่พอถึงคนที่4 เห้นแสงขาวๆ แว๊ปๆ ตรงจุดที่ อ.เอกให้มอง (เหนือหัว1 ผ่ามือ ก็เห้นเป้นแสงสีขาว เหมือนรัศมี คุมครอบ คนๆนั้นไว้ แต่ถ้าวางโฟกัสสายตาผิด แสงจะหายไปทันที ผมเห้นของทุกคนคล้ายกัน คือออกสีขาว แต่จะชัดเข้ม จนแสบตา คลุมครอบไว้ประมาณ 2-3 นิ้วฟุต (ดีใจได้เห็น แล้ว อิอิ นึกว่าจะกินแห้วตลอด )
9. ฝึกดูออร่า ตนเอง ฝึกดูออร่าตัวเอง เห็นแตกต่างจากออร่าคนอื่นเป็นอย่างไร?
ตอบ. คล้ายๆ กัน แต่ ของตัวเอง รัศมีจะน้อยกว่าคนอื่น
10. ออกไปสถานที่จริง สำหรับข้อนี้ต้องไปสนามจริง แล้วอธิบายให้เป็นรูปแบบสามมิติ มีภาพมีแสงมีเสียงอีกนิดนึง เมื่อถูกฝังชิปหรือซิมการ์ดแล้ว รู้สึกแตกต่างจากตอนแรกอย่างไร
ตอบ. ที่ต่างก็คือ ทำลูกบอลได้ง่ายขึ้น เหมือนสร้างพลังได้ง่ายกว่าที่ยังไม่ได้ เจิมจุ่มจิ้ม ส่วนความรู้สึกอื่นๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ครับ
คาราวะ (น้ำชา ) อาจารย์ 1 จอก กรึ๊บ ถึงจะ ไม่มีความรู้สึกชัดเจนเก่งเหมือนคนอื่น แต่ก็จะพยายามทำไปตามเสต๊ป มึนทำไปเรื่อยๆ อิอิ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เข้าฝึกการสัมผัสพลัง เราก็จะมาสัมภาษณ์เพื่อนคนที่ 3 ซึ่งก็คือ คุณ.......(ยังมีต่อ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)