รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับแก้วจักรพรรดิ์,การปฎิบัติสมาธิ และ ,ตรวจพลังพระเครื่องด้วยแพนดูลั่มพลังจิต
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
พุทธคุณ หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
1.ดีทางร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเย็นใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของหากใครได้สัมผัสหินเสมอๆ จะทำให้สงบในใจแก่ผู้นั้น
2.ช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา เรียกว่าเจริญในธรรม
3.เป็นเมตตามหานิยม ทำให้ผู้ที่พบเห็นเราเกิดความรักใคร่อยากช่วยเหลือแต่ไม่เด่นทางเสน่หา หรือเรื่องทางชู้สาว
4.ดีทางคุ้มครอง เป็นแคล้วคลาด คือผู้ที่พกพาหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ สามารถรอดตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลย และยังดีทางคงกระพัน คือแม้ว่าต้องผจญด้วยเหตุการณ์อันไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้วก็เป็นคงกระพันรอด ตัวมาได้เสมอ
5.ดีทางโชคลาภ หินพระธาตุเขาสามาร้อยยอด เป็นสื่อนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เรียกว่า ในหินพระธาตุนั้น มีกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงรักษาอยู่ภายในผู้ที่หมั่นนำเอาหินนี้มาสวดมนต์ ภาวนา นำมาพกติดตัวเสมอๆมักได้โชคได้ลาภไมขาดเลย
6.ดีทางสมบูรณ์ด้วยสุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตุนี้เป็นสิ่งที่สะสมปราณ ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา ทะเล มานานนับร้อยนับพันปี จึงทำให้มีพลังชีวิตแห่งจักรวาลอยู่ในตัวอย่างสูงส่ง ผู้ที่พกหินนี้หรือมีหินพระธาตุอยู่ใกล้ๆตัวย่อมเป็นผู้ได้รับกระแสพลังปราณ อันลี้ลับ พลอยทำให้สุขภาพสมบูรณ์ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนนาน
7.ดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด จะมีลักษณะเด่นคือ เมื่อนำหินมาเจียรแล้วจะมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด อันเป็นมงคลลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของลายหิน โดยลักษณะดังกล่าว เป็นลักษณะแห่งพลังธรรมชาติที่นำพาความรุ่งเรืองความสำเร็จมาสู่ผู้บูชาดัง นั้นพลังลี้ลับศักดิ์สิทธิ์จากหินเขาสามร้อยยอดจึงเป็นแรงผลักดันอย่างลี้ ลับในการนำพาชีวิตของผู้นั้นไปสู่ความเจริญในหน้าที่การงานและความสำเร็จใน ชีวิต
8.หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินแห่งญาณทัศนะ ข้อดีในความหมายนี้คือ ผู้ที่พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าปุถุชน สามารถรู้เหตุดีร้อยล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากเทพเซียนที่รักษาหินนั้นจะคอยสอดญาณหยั่งรู้หรือ บันดาลเทพสังหรณ์ให้แก่ผู้นั้น นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
9.ค้ำคูณดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ คนที่รู้ว่าดวงชะตาตนเองไม่ดีหรือชงกับปีนั้นๆหากได้หินพระธาตุเขาสามร้อย ยอดมาบูชา อำนาจจากอริยะธาตุแห่งหินเขาสามร้อยยอดจะทำการเกื้อหนุนดวงชะตาของท่านไม่ ให้ตกต่ำลงไป ผ่อนหนักเป็นเบาสามารถรอดพ้นจากอำนาจ จากดวงดาวหรือผ่อนปรนภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านได้
หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
มีแหล่งกำเนิดอยู่ในบริเวณเทือกเขาที่ซับซ้อน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเป็นเม็ดหินสัณฐานกลมเป็นปริมณฑล มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเท่ากำปั้น ไข่ไก่ จนกระทั่งขนาดเท่า ไข่จิ้งจกและไข่ปลาดุก สีที่พบส่วนมากเป็นสีขาวคล้ายไข่จิ้งจก ส่วนสีอื่นก็มี สีแดงคล้ายดินเผา ออกใสคล้ายสีน้ำผึ้งก็มี หินดังกล่าวจะซ่อนตัวโดยการฝังอยู่ในแท่งหิน แท่งหินเหล่านี้จะทำหน้าที่คล้ายฝักและมีหินพระธาตุเหล่านี้อยู่ภายใน บางคนอาจเรียกหินพระธาตุดังกล่าวอีกชื่อหนึ่งว่า พระธาตุไข่ในหิน
หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินศักดิ์สิทธ์ที่นิยมในหมู่ผู้ชอบสะสมของแปลกและพวกเครื่องรางของขลัง มานานกว่า 40 ปีแล้ว มีการขอสัมปทานขุดหินเขาสามร้อยยอดออกมาขาย โดยจำหย่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น หินดิบที่มีพระธาตุฝังอยู่ นำมาแกะเป็นพระ เจียร์เป็นเครื่องประดับต่างๆ ก็มาก
มีผู้รู้ทั้งหลายกล่าวกันว่า พระธาตุส่วนมากที่พบในลักษณะของไข่ในหินนั้น เป็นพระธาตุของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และยังอาจมีพระธาตุของพระสาวกรูปอื่นๆรวมอยู่ด้วย ในแผ่นหินหนึ่งแผ่นจึงอาจเป็นที่รวมของพระธาตุหลายชนิด มีอานุภาพครอบจักรวาล เป็นของมหyามงคลสูงสุด ที่ใครได้ไว้นับว่าเป็นโชคลาภมหาศาล
ขุนเขาแหล่งพระธาตุแห่งนี้ มีครูบาอาจารย์ทั้งหลายจาก ทุกภาคของประเทศ นิยมมาอัญเชิญพระธาตุไปประดิษฐาน ณ บ้านเมืองตน ที่เขาสามร้อยยอดนี้ยังเต็มไปด้วยพระธาตุสาวกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พระองคุลีมาล พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร และพระสีวลี
ทั้งนี้ยังปรากฏผงพระธาตุสีต่างๆ อีกด้วย หรือมี่เรียกกันว่า ผงพระเจ้า เท่าที่ทราบผงพระธาตุที่พบมีสีขาวบริสุทธิ์คล้ายแป้ง ภายในจะเป็นเกล็ดแก้วสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีสีคล้ายน้ำตาลปี๊บ ผงแต่ละสีจะอยู่แยกกันตามธรรมชาติในถ้ำไม่ปะปนกัน เหมือนมีผู้นำมาแยกเอาไว้
ที่ มาของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จากคำบอกเล่าของลุงไล้ ชาวจังหวัดประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า หินพระธาตุนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะเก้ง ธรรมดา ตัวเดียว มีนายพรานพบเห็นเก้ง ในเขตเขาสามร้อยยอดนี่แหละ จึงทำการขึ้นนกสับไกปืนขึ้นเล็งเตรียมที่จะยิง เมื่อได้จังหวะดีก็เหนี่ยวไกออกไป เสียงแชะ ปรากฏว่าลูกกระสุนปืนด้าน ยิงไม่ออก เก้งรู้ตัวจึงวิ่งหนีไป นายพรานตามมาทันได้จังหวะ ก็ลองยิงซ้ำอีกครั้ง เสียงดังแชะ อีกเช่นเคย ลองยิงเป็นครั้งที่ สาม และสี่ก็เป็นเหมือนเดิม จึงลองหันปากกระบอกปืนไปยังทิศทางอื่น ปรากฏว่าปืนสามารถยิงได้เป็นปกติตามเดิม นายพรานนึกแปลกใจ จึงค่อยๆตามอีเก้งตัวนั้น พบว่าเก้งตัวนั้น เลียน้ำจากโขดหินอันหนึ่งที่มีลักษณะแปลกตา โขดหินที่ว่า มีลักษณะคล้ายไข่ไก่ ไข่เป็ด ขนาดเขื่อง ฝังตัวอยู่ภายในก้อนหินทั้งแท่ง
ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดก็เริ่มแพร่สะพัด ระยะแรกเป็นที่รู้กันในเฉพาะกลุ่มพรานป่า ที่นิยมมาแงะเอาหินเขาสามร้อยยอดพกติดตัวป้องกันภัย โดยพลังอำนาจที่ร่ำลือกันมากที่สุดคือ อำนาจทางด้านมหาอุด คงกระพันนั่นเอง
ประวัติและการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
" นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนพระกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมก็ดี บอกฉันก่อน ฉันจะให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหนให้ว่าตามนั้น "
วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ส่งงานฝึกพลัง WORK SHOP 1-นาย ณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
วันที่ 27 มิย 2552 (วันที่ ๖ ส่งแบบฝึกหัด WORK SHOP 1 )
- 1.30 เริ่ม ทำ นอนลง แขนแนบลงกับลำตัว และให้นิ้ว มาแตะเรียงกัน จากนั้น ก็ สูบลมหายใจปรับลมปราน 10 รอบ พอนิ้วเริ่มแตะกัน ตรง
ปลายนิ้ว ก็รู้สึกถึงพลังงานที่วิ่งผ่านไปมา เมื่อรู้สึกถึงพลังที่มือมากพอ
แล้ว ก้ค่อยๆ เคลื่อน ไปตามแขน ถ้าจุดไหนมีความรู้สึกน้อย ก็ ขอพลัง
จากลูกแก้วให้ช่วย ต่อไปที่หัวไหล่ คอ หัว แล้วไล่ลงมาที่อก หน้าท้อง
สะโพก ต้นขา น่อง และสุดท้ายที่ปลายเท้า
- จุดที่รู้สึกมากที่สุด คือที่ ปลายนิ้ว ที่มือ ที่แขน ขาอ่อน ต้นขา น่อง และปลายเท้า
- 2.00 เพลอหลับไป แฮ่ ๆๆๆ ....
- 9.45 ตื่นเช้ามา ฟันไม่ต้องแปลง เริ่มทำเลย เอาลูกแก้วใส่ถุงไว้ แล้ววางไว้ที่กลางอก เพราะเสื้อไม่มีกระเป๋า แต่ก็ใกล้หัวใจพอสมควร
เอามือราบกับตัว นิ้วมาแตะเรียงกัน แล้วเริ่มสูดลมหายใจ 10 รอบ
ตรงปลายนิ้วก็เริ่ม มีความรู้สึก เหมือนไฟฟ้าดูด บางทีก็ แรงขึ้นจนเจ็บ
พอรู้สึกมากพอก็ ค่อยๆ กำหนดความรู้สึกให้ค่อยๆ เคลื่อนมาที่แขน
เขนบน หัวไหล่ คอ หัว จากนั้น ก็ ไล่ลงมาที่คอ หน้าอก หน้าท้อง สะโพก ต้นขา หัวเข่า น่อง และปลายเท้า หากตรงไหนมีความรู้สึกน้อยก็ขอให้ ลูกแก้ว ช่วย ให้มีความรู้สึกถึงพลังงาน เพิ่มขึ้น
- ทำไปซัก 1/2 ชม รู้สึกเมื่อแขน เลย สูดหายใจลึกๆ เพื่อขอหยุด แขน 2 ข้าง ตังแต่ หัวไล่ลงไป จะรู้สึก พอง ชา มาก ขยับแขน ขยับมือ
ไปมา ก้ ทำต่อ แขนแนบลำตัว นิ้ว แนบเรียงกัน สูดลมตาม สูตร แต่คราวนี้ รู้สึกแปลกออกไป ตรงปลายนิ้ว ทั้ง 2 ข้าง เหมือนมี อะไรดี
อธิบายลำบากจังที่จะให้เหมือน เหมือนกระแสพลัง ก้ใช่ คล้าย ไฟ้ฟ้าวิ่งผ่านก็ใช่ เหมือน แท่งเหล็ก เย็นๆ แหลมๆ เสียบทะลุไปก็ใช่ เสียบผ่านนิ้ว มือไป ทุกๆนิ้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ซักพัก ก้ หยุดลง
- จากนั้น ก็ เริ่มทำเหมือนเดิม กำหนดให้ หลังงาน เคลื่อนผ่าน ไปตาม
แขน หัวไหล่ คอ หัว ลงมา หน้าอก แผ่นท้อง สะโพก ต้นขา น่อง
ปลายเท้า กำหนดช้าๆ ไปเรื่อยๆ
- ตรงหน้าอก หน้าท้อง จะเป็นจุดที่มีความรู้สึกน้อยที่สุด ไม่รับรู้พลังงานชัด เหมือนตรง นิ้ว แขน ขา
ปล 1. ทำไปบางที ก็รู้สึกว่า ร่างกาย คือก้อน พลังงานก้อนเดียว ไม่ค่อยรู้สึกว่า มีมือ ตัว มีเท้า
ช่วงนี้ตั้งแต่เริ่ม ทำมา มือไปจับ mouse ก้ รู้สึกมีการ แปร๊ปๆ ตรงปลายนิ้ว แขนก็ชา เกือบทั้งวัน จบข่าว ....
ปล 2 . การเดิน การทรงตัว รู้สึกคล่องตัวขึ้น เล็กน้อย ^^
วันที่ 29 มิย 2552 (ครั้งที่ 1 ส่งแบบฝึกหัด พระสติ พระปัญญา )
- 20.40 สวดมนต์เสร็จก็ เอนกายลงนอน ( นอนประจำ ก็ปวดหลังนี่
นา ) จับพระสติไว้มือซ้าย พระปัญญาไว้มือขวา สูดลมหายใจ ตามสูตร
พลัีงของพระ ก็เริ่มเข้ามาที่นิ้วมือ แล้วก็ วิ่งลงไปที่ปลายเท้าเลย จากนั้นร่างกายก็เหมือน ก้อนพลังงาน คิดไปตรงไหนก็ วิ่งไปตรงนั้น
- พลังของ พระสติ พระปัญญา จะนิ่มนวล กว่า พลังของลูกแก้ว จะรู้
สึกเย็นๆ
- จะเล่าความรู้สึกยังไงดี อธิบายลำบาก ความรู้สึกของร่ายกาย จะน้อยลง แต่จะรู้สึกว่า ร่างกายชา ๆ และ รู้สึกถึงว่า มีพลังอะไร ครอบคลุมอยู่ ทั้วร่างกาย บางครั้ง ความรู้สึกของร่างกาย ก็มีน้อยมาก เพราะ
ความรู้สึกของพลังมีมากกว่า วนเวียนไปมา จนบางทีจะจับความรู้สึก
ถึง มือ แขน ขา เท้า ยาก รู้สึกเมือนว่า กีะจุกรวมอยู่ที่เดียวกัน เป็นก้อนเดียวกัน ทำไป 1 ชม ก็รู้สึกแบบนี้ งวดนี้ทำไป ดูหนังไป เลยครบชม แบบไม่ลำบาก อิอิ ...จบ ข่าว ...
วันที่ 30 มิย 2552 (ครั้งที่ 2 ส่งแบบฝึกหัด พระสติ พระปัญญา )
- 10.00 สวดมนต์แล้ว ก็ เอนลงนอน มือซ้ายใช้นิ้ว 3นิ้ว จับพระสติ
มือขวา ใช้นิ้ว 3นิ้ว จับพระปัญญา น้อม ใจขอพลังจากท่าน แล้วก็ สูบลมตามสูตร แขนวางลง ข้างลำตัว
- รู้สึกมีพลังจากพระ แพ่เข้ามาที่นิ้ว มีละน้อย วันนี้รู้สึกถึงพลังน้อย ก็
เลย ปล่อยใจ ทำไปเรื่อยๆ พอเริ่มเพลินๆ พลัง แพ่ไปทั้วทั้ง ตัวเลย รู้สึกตัวเริ่ม ชา ไม่ค่อยมีความรู้สึก เหมือน มี อะไร เห่อทั้วตัว ร่างกาย บางทีก็รู้สึกว่า ร่างกายเหมือน ท่อน้ำ ที่ มี พลัง เหมือน กระแส น้ำ
ไหล วนไปวนมา
- ครึ่ง ชม แรก เร็วมากเลย ลืมตา ดูเวลา 2 ครั้ง แต่ครึ่ง หลัง แฮ่ ๆๆ
รู้สึกน๊านนาน
- 11.00 หมดเวลา จบข่าว ...
ส่งงานฝึกพลังพระสมเด็จองค์ปฐม(พระสติ-พระปัญญา)-นายธีระพงษ์ ซินโซ
ส่งการบ้าน work shop ครั้งที่ 1
ขอสารภาพว่า การทำ work shop ครั้งที่ 1 ทำวันอาทิตย์ (วันสาร์ไม่ได้ทำครับ) และวันอาทิตย์ก็ทำได้ไม่คล่องตัวนัก รู้สึกหงุดหงิด (เนื่องจากมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง) ทำให้การฝึกวันอาทิตย์ล้มเหลว
ดังนั้นจึงทำใหม่เช้าวันจันทร์29 มิถุนายน52 เวลา 08.00-09.00 น. ผลปรากฏดังนี้ เริ่มสวดมนต์ไหว้พระ และอันเชิญ"เทพบุตร" และ "เทพธิดา" ขอทำ work shop พอซ้อมลมหายใจ 10 รอบแล้ว เริ่มนำนิ้วมาสัมผัสกันทั้ง 10 นิ้ว แรกๆ ไม่รู้สึกใดๆเลย ผ่านไปสักระยะ น่าจะสัก 10 นาที เริ่มรู้สึกแปล๊บๆที่ปลายนิ้ว ก็กำหนดจิตรู้ไว้ยังงั้น และลองกำหนดให้พลังไปอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ ตามที่ อ.เอกแนะนำ รู้สึกว่าพลังไปอยู่ตามที่เรากำหนด แต่ไม่สามารถรับรู้การไหลของพลังได้ คือ พลังไปอยู่เลย โดยไม่ไหลไปตามแขนขา บอกให้ไปที่แขนก้ไปแขน โดยไม่ไหลผ่านแขน ประมาณนี้ แต่พลังที่สัมผัส ไม่แรง เป็นแบบเบาๆ คงต้องฝึกเรื่อยๆ ถึงจะสัมผัสได้ดีขึ้น (แต่ที่ปลายนิ้วจะแรง สัมผัสได้) จบการรายงาน work shop ครั้งที่ 1
ระหว่างที่รอฝึกทำ work shop ครั้งที่ 2
ส่งการบ้านครั้งที่ 6 : 29 มิถุนายน 2552 เวลา 09.00-10.00 น.
การฝึกจับพลังจากองค์พระสมเด็จองค์ปฐม (พระสติ กับ พระปัญญา)
เริ่มการฝึก สวดมนต์ไหว้พระ ตามปกติ อาราธนาพระทั้ง 2 มากำดู ไม่รู้สึกใดๆ เริ่มต้นฝึก ปรับลมหายใจเข้า-ออก 10 รอบ เริ่มสัมผัสแรกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งแปล๊บๆที่นิ้ว อ่า เริ่มแต่ต้นเลยหรอเนี่ย ... ผ่านไปเรื่อยๆ มีพลังมาเป็นระยะๆ แต่ไม่แรงมาก (เหมือนกับการฝึกจับพลังลูกแก้ว วันแรกๆ ไม่แรงมาก) แต่ช่วงหลังๆ ช่วงนาที 30 เป็นต้นไป พลังเริ่มแรงขึ้น กระตุกเป็นระยะ ภาพรวม วันแรก สัมผัสพลังได้แต่ยังไม่แรงมาก จบรายงานข่าววันที่ 6.
ส่งการบ้านครั้งที่ 7 : 29 มิถุนายน 2552 เวลา 00.40-01.40 น.
ก่อนการฝึก สวดมนต์ไหว้พระตามสูตร อาราธนาพระสติและพระปัญญา เพื่อฝึกจับพลัง
ในการฝึกครั้งที่ 2 นี้ รู้สึกว่า พลังจากองค์พระแรงกว่าเมื่อเช้าและสัมผัสได้เร็วกว่าเมื่อเช้า บริเวณนิ้วที่สัมผัสบางครั้งเหมือนมีมวลอากาศหมุนวนที่นิ้ว (แต่ไม่ได้หมุนตลอดเวลา) เหมือนไฟฟ้าวิ่งจากองค์พระเป็นบางครั้ง แต่การฝึกในครั้งที่ 2 นี้ จิตจะนิ่งกว่าครั้งแรก เลยสัมผัสเหมือนมีพลังออกจากองค์พระเกือบตลอดเวลา ฝึกรวดเดียวจบ แต่เปลี่ยนอริยาบท 2 ครั้ง ครั้งแรกนั่งขัดสมาธิ ครั้งที่ 2 นั่งเหยียดขาตรง (แหมก็มันเมื่อยนี่นา) จบการรายงาน ..
ส่งการบ้านครั้งที่ 8 : 30 มิถุนายน 2552 เวลา 02.15-02.45 น. และ 1 กรกฎาคม 52 เวลา 11.00-11.30 น.
การฝึกครั้งนี้ ต้องข้ามวัน แบ่งเป็น 2 รอบ เนื่องจากดึกและง่วงพอสมควร
เริ่มการฝึก สวดมนต์ไหว้พระตามสูตร และอาราธนาอันเชิญ "พระสติ" และ"พระปัญญา" เพื่อฝึกจับพลัง การฝึกครั้งที่ 3 นี้ รู้สึกจะสัมผัสพลังจากองค์พระได้เร็วขึ้น รู้สึกแปล๊บๆที่นิ้วตั้งแต่ต้น แรงบ้าง ค่อยบ้างแล้วแต่จังหวะ ครบ 30 นาที พักยกเข้านอน...ตื่นขึ้นล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมพร้อมฝึกก็สวดมนต์ไหว้พระตามสูตร นั่งปรับลมหายใจสักครู่ ก้เริ่มฝึก เหมือนเดิม พลังที่สัมผัสได้ มาเร็ว มาเป็นระยะ ไม่แรงมาก สลับนิ่งๆ เป็นระยะๆ ก็อธิษฐานขอรับพลังจากองค์พระ พลังก้กลับมาเหมือนเดิม ครบ 30 นาที ก็หยุดฝึก ... คืนนี้ฝึกต่อ จบรายงานข่าว
ปล. ตามตารางเวลาที่อ.เอก นัดหมาย เตรียมพร้อมเต็มที่ส่วนจะได้รับหรือไม่ได้รับอะไร เห็นหรือไม่เห็นอะไร ก็ต้องแล้วแต่ผลการฝึกของผมเอง เตรียมตัวเตรียมใจเต็ม 100 เง้อ...ชักหนาวๆ-ร้านค้าออนไลน์ Digital Life Shop
การฝึกเดินพลังครั้งที่2-นายสัญชาติ เชียงการ
จับพลังโดยการนอนครับ ครั้งนี้อาการไม่ติดขัดเหมือนตอนนั่งครับ อาจเป็นเพราะสบายกว่า จับพลังไปเพลินๆ มีอาการแปล็บๆ แต่ไม่รุนแรงครับ ตอนแรกก็เดินพลังตามจุดที่อาจารย์กำหนด ตอนหลังมาคิดนู่นคิดนี้ จิตไม่สงบเท่าไหร่ครับ พอนาฬิกาดัง นิ้วชาครับ ตอนแรกนึกว่านิ้วก้อยไม่ติดกัน ที่ไหนได้นิ้วติดกันและก็ชา ขยับไม่ได้ครับ เลยรวมสติอยู่พักหนึ่งก็เอามือออกจากกันได้ครับ สักพักอาการชาก็หายไปครับ แต่รู้สึกว่าเวลาผ่านเร็วมากครับ (อาจเพราะนอนสบายเกินไป)./
ส่งการบ้านจับพลังพระสติและพระปัญญา วันที่ 30 มิ.ย. 52
การจับพลังวันนี้รู้สึกว่าพลังอ่อนครับ มีการแปล๊บๆ และพระดิ้นนิดๆครับ มันนิ่งๆ เงียบๆยังงัยไม่รู้ครับ ไม่รู้ว่าพลังเย็นหรือเปล่าเพราะฝนจะตกอากาศอ้าวเลยเปิดพัดลมครับ ตอนแรกขัดสมาธิปวดเมื่อยเลยเหยียดขา จิตสงบดีครับ แม้สัมผัสพลังงานไม่ได้ ตอนเข้านอนก็ยังรู้สึกว่าใจสงบอยู่ครับ./
ส่งการบ้านวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ครับ
วันนี้เข้าเวรเตรียมตัวรับเครื่องป้องกันสัญญาณรบกวนที่อาจารย์จะส่งมาให้ครับ การจับพลังพระสติปัญญาวันนี้ ก็ยังเงียบอยู่ครับ แต่มีกระแสความเย็นที่ได้จากองค์พระตั้งแต่เริ่มจับองค์พระทั้งสองครับ โดยมีความเย็นที่นิ้วมือที่จับ และลามไปยังมือและผ่านไปยังแขนทั้งสองข้าง และแผ่นหลังครับ ส่วนหัวจะเย็นตรงหัวด้านซ้ายครับ การจับพลังวันนี้รู้สึกเวลาผ่านไปช้าครับ มองนาฬิกาหลายครั้ง พอเหลือ 20 นาทีสุดท้ายก็จับพลังโดยการนอนครับ ไม่รู้พระสติด้านซ้ายหล่นจากมือตอนไหนครับ สงสัยเผลอหลับไปครับ พอนาฬิกาดังก็จับพระอ้าว พระไม่อยู่แล้ว ทั้งๆที่มือยังยกค้างไว้อยู่ครับ แปลกๆดีครับ รู้สึกพลังพระสติปัญญาจะเย็นสบายใจสงบดีครับ จบการบ้านของวันนี้ก่อนครับ./-ร้านค้าออนไลน์ Digital Life Shop
วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การฝึกเดินพลัง-นายสัญชาติ เชียงการ
วันนี้เข้าเวรครับ เลยมาส่งการบ้านของแถมครั้งที่ 1ครับ
เริ่มต้นด้วยการปรับลมหายใจ ตลอดเวลาการฝึกรู้สึกว่าตัวเองจ้าครับ (มีแสงออกจากตัว แบบมองไม่เหมือนแสงปกติที่มองเห็นอ่ะครับอธิบายไม่ถูก)คือถ้ามองที่มือหรือมองออกนอกตัวจะตาพร้าๆครับการสัมผัสพลังรู้สึกว่าแต่ละนิ้วที่จับกันมันดูดกันครับ แรกๆ ก็แปล๊บพอนานเข้าเป็นแบบปวดตึบๆๆแล้วก็หนาวครับ ปวดแบบหนาวๆครับ (อธิบายไม่ถูกครับ)ส่วนการไล่พลังจากนิ้วมือขึ้นไป บางครั้งมีอาการแขนกระตุกครับมีอาการเคลิ้มเหมือนจะหลับครับ(ตามันจะปิด)พอรู้สึกตัวหันมาสนใจที่นิ้วมือพบว่านิ้วก้อยแยกห่างออกจากกัน เป็น 2 ครั้งในรอบนี้และมีอาการเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าแยกจากกันตอนไหนครับพอตอนหลังมาคอยจับผิดตรงนิ้วก้อยก็ไม่มีอาการเคลิ้มหลับครับ (แปลกดี)ต่อด้วยการไล่พลังจากแขนขึ้นไปบนหัว รู้สึกตึบๆ ไม่โล่งหายใจขัดบ้าง (ปรับจังหวะหายใจไม่ทัน) มีอาการปวดหัวด้วย ตอนรายงานอยู่นี้ก็ยังปวดอยู่แต่ไม่มากนัก แต่พอถึงสุดหัว แล้วไล่พลังมากลางหน้าอกบนหัวจะเย็นๆ เหมือนมีลมเป่าหรือลมทะลุเข้าไปในหัวครับการไล่พลังจากหัวมาที่หน้าอกจะจะอึดอัดต้องระบายลมหายใจแล้วเริ่มไล่ใหม่จากจุดที่ติดช่วงนี้จะรู้สึกมีความร้อนไล่ไปตามที่คิดครับพอไล่พลังลงมาที่ท้องรู้สึกปวดท้องด้านซ้ายเหมือนเป็นก้อนหรืออะไรติดอยู่ที่ท้องและปวดเวลาไล่พลังครับต้องหายใจเข้าแล้วไล่พลังลงไปที่ขาใหม่ที่ขานี้เวลาไล่พลังจะมองเห็นภาพว่าไปถึงไหนแล้วคือรู้สึกตามพลังลงไปจะมองเห็นภาพว่าหน้าขา หัวเข่า น่อง ส้นเท้า ฝ่าเท้าและก็สุดที่ปลายเท้าครับพอเริ่มจับพลังใหม่ก็ไล่ใหม่จากมือมาแขนมาหัวลงตัวไปท้องแล้วก็ลงขามีบ้างที่มีอาการปวดตามจุดต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ปวดนิ้วบ้างครั้งแสบมือถึงข้อมือแต่ไม่ลามมาตามแขน แต่มีความรู้สึกว่าปวดแบบหนาวๆครับหลังจากทำครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ลุกขึ้นเดิน (ตอนแรกคิดไว้ในใจว่าคงตัวเบา)มีอาการซ่านแบบว่าเหมือนพลังยังวิ่งตามทางที่ไล่พลังอยู่แต่ไม่รุนแรงจะมีความรู้สึกที่มือทั้งสองข้าง และปวดตามตัวหลายที่ครับจบการบ้านวันแรกครับเหลือจับพระสติกับพระปัญญาครับไว้สวดมนต์เสร็จก่อนครับ/19.53
ก่อนสวดมนต์มีเวลาว่างประมาณ 20 นาที เลยจับพลังงานจากพระสติและพระปัญญา การจับพลังงาน 15 นาทีแรก เริ่มต้นด้วยความรู้สึกตุ๊บๆที่นิ้วมือและมีอาการเย็นเหมือนกระแสเย็นจากองค์พระที่มือขวาด้านพระสติก่อน พอคิดว่าเย็นจากอากาศหรือเปล่าด้านซ้ายพระปัญญาก็เริ่มเย็นเหมือนกัน เอามือวางบนหน้าขาก็รู้สึกว่ามือที่วางมีความเย็นแปลกดีครับ พอจับไปสักพัก ก็เริ่มปวดอีกแล้วปวดแบบหนาวครับ แบบเย็นด้วยปวดด้วย ครบเวลา 15 นาทีแรก ก็ขอหยุดรับพลังแล้วก็สวดมนต์ตอนสองทุ่มครึ่งก็ยังรู้สึกว่ามือยังเย็นอยู่ ตอนนี้หายแล้ว เดี่ยวมาส่งการบ้านต่อครับไปจับพลังงานตามเวลาที่เหลือก่อนครับ ส่งการบ้านต่อครับจากที่ได้จับพลังงานตามเวลาที่เหลือนั้น รู้สึกว่ามีพลังความเย็นแผ่ออกมาจากองค์พระแต่จะรู้สึกได้ดีในด้านขวาด้านพระสติ และมีการดิ้นของพระเนื่องจากเอามือจับด้านบนและด้านล่างขององค์พระแล้ว และเอานิ้วกลางรองใต้หลังพระโดยนิ้วกลางวางติดกับนิ้วโป้ง พระมีการเคลื่อนตัวขึ้นจนรู้สึกได้ จึงมั้นใจว่าท่านขยับ มีอาการปวดหนึบและเย็นมือดีครับ ขออนุญาตถามวิธีจับพลังอีกครั้งหนึ่งครับ คือพอเราปรับลมหายใจครบ 10 ครั้งแล้ว ก็ปล่อยความรู้สึกจับอยู่ที่ลูกแก้วหรือองค์พระใช้ไหมครับ โดยไม่ต้องกำหนดปรับลมหายใจอีก หรือสวดท่องมนต์ใดๆ ปล่อยใจสบายๆ เพราะตอนแรกเข้าใจว่าตอนที่จับลูกแก้วหรือจับองค์พระต้องกำหนดคาบลมด้วย ทำให้รู้สึกอึดอัด แต่พอเปลี่ยนวิธีแล้วรู้สึกดีขึ้น แต่กรณีที่เรารู้สึกว่าพลังอ่อนแรงไปก็ให้กำหนดคาบลมเพื่อขอรับพลังจากพระหรือลูกแก้วจักรพรรดิ์ (ผมเข้าใจตามนี้ถูกไหมครับ) ถ้าเข้าใจไม่ถูกต้องประการใดรบกวนอาจารย์ เมตตา ชี้แนะศิษย์หลังเขาอีกสักครั้งครับ./
รีวิวสินค้า digital life shopวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เล่าเรื่องวันที่มารับหลวงปู่ดู่ บรรจุแก้วจักรพรรดิ์
ก่อนบ่ายโมงคุณchanayut เดินทางเข้ามาถึงที่บ้านเป็นคนแรก ก็คุยกันพอสมควรและสังเกตุเห็นว่าใบหน้าไม่สดใส หม่นหมอง ให้สัมผัสพลังงานจากองค์หลวงปู่ดู่ เห็นว่ารับพลังได้ จึงได้มอบหลวงปู่ดู่ให้ไปบูชา และได้แนะนำการสัมผัสพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ทำได้ดี ต่อมาคุณratsungก็เข้ามาเป็นคนที่สอง และคุณแสวงหาความจริงได้พาเพื่อนมาด้วย เป็นที่สามและสี่ ได้มอบพระหลวงปู่ดู่ให้กับคุณratsung และมอบพระสมเด็จองค์ปฐมฝังพระธาตุเขาสามร้อยยอด จำนวน 10 องค์ให้กับคุณแสวงหาความจริง และได้แนะนำการรับพลังงานและสัมผัสกระแสพลังงาน ให้กับคนที่มาทีหลังทั้ง 3 คนนี้ เมื่อทั้ง 4 คนได้เข้าใจและรู้วิธีรับส่งพลังงานแล้ว ก็ให้ทั้ง 4 คนนั่งล้อมวงกัน และต่างฝ่ายต่างรับ-ส่งพลังงานให้แก่กัน เป็นการฝึกทำสมาธิหมู่ เพื่อผลบางอย่างที่เด่นชัดให้ปรากฏผลได้เร็วขึ้น...
หลังจากเสร็จจากการทำสมาธิหมู่แล้วก็ได้สอบถามผลการปฎิบัติ แต่ละคนต่างบอกว่า มีพลังงานไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย บางคนเห็นเป็นสีต่าง ๆ บางคนเห็นเป็นแสงสว่าง บางคนรู้สึกกระแสความร้อน ที่รู้สึกไม่เหมือนกัน เพราะช่องรับสัญญาณของแต่ละคนมีความละเอียดไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนรู้ว่ากระแสพลังงานมีอยู่จริง ไม่ใช่เป็นตัวหนังสือที่เขียนให้อ่านกัน แต่สามารถรู้สึกได้ สัมผัสได้ ขณะที่มีสติสัมปะชัญยะครบถ้วน ไม่ได้อยู่ในอาการง่วนนอนหรือเข้าสมาธิระดับลึก และเพื่อยืนยันพลังงานอีกทีหนึ่ง จึงได้ให้คุณchanayut นั่งข้างหน้า หันหลังให้อีก 3 คนนั่งอยู่ข้างหลัง และก็บอกให้นำพระกำลังจักรพรรดิออกมาและให้ทั้ง 3 คน อธิษฐานขอพลังจากหลวงปู่ให้มาสู่ตนเองและส่งพลังนั้นไปยังคุณchanayut ประมาณ 5 นาที จึงบอกให้เลิก และให้คุณchanayut หันหน้าไปทางเพื่อน ๆ ทั้ง 3 คนที่ส่งพลังให้ ปรากฎว่า ใบหน้าของคุณchanayut ก่อนจะรับพลังและหลังรับพลัง ผิดกัน โดยก่อนรับพลังใบหน้ามีราศีไม่สดใส หลังรับพลังหน้ามีความสว่างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นี่แสดงว่าพลังงานสามารถรับส่งได้จริง และเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ หากมีผู้แนะนำที่มีความรู้ในเรื่องนั้น หลังจากที่ฝึกแล้วทุกคนสามารถรับส่งพลังได้จริงเพียงแค่นึกว่าต้องการรับพลังหรือส่งพลัง ก็จะเกิดกระแสขึ้นมาให้สัมผัสได้ จึงบันทึกเอาไว้เป็นความรู้
ต่อมาพี่ทิพได้เข้ามาเป็นรายที่ 5 ก็มีการให้ทดสอบการรับพลังจากองค์หลวงปู่ดู่ เมื่อสอบผ่านก็ได้มอบหลวงปู่ดู่ไปให้พร้อมพระธาตุองค์เล็กอีก 1 องค์เพื่อวางไว้ที่มือของหลวงปู่ แต่ปรากฏเมื่อพี่ทิพกลับบ้านแล้วมีพระธาตุองค์เล็กกว่าเพิ่มมาอีก 1 องค์ ก็ต้อง ขอแสดงความยินดีด้วย พระธาตุท่านเสด็จมาอยู่ด้วย
ต่อมารายที่ 6 ที่เข้ามาคือคุณthatch เธอมารับหลวงปู่ดู่ พร้อมทั้งขอเบิกลูกแก้วจักรพรรดิเพิ่ม เนื่องจากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย จะได้ไปช่วยขยายเครือข่าย ปรับภพภูมิด้วยการวางลูกแก้วจักรพรรดิ เมื่อนำลูกแก้วทั้งถุงประมาณ 40-50 ลูกวางลงในมือเธอ ทันใดนั้นเองอยู่ ๆก็มีเสียงร้องแสดงความดีใจอย่างที่สุดเหมือนสามล้อถูกรางวัลที่ 1 หัวเราะเสียงดัง ซึ่งเป็นเสียงไม่ใช่ของตัวเองแต่เป็นเสียงของสิ่งที่แฝงอยู่ในกายของเธอ แสดงความดีใจอย่างสุดซึ้งที่จู่ ๆ ก็ได้รับกระแสบุญอย่างมากมายมหาศาลจากหลวงปู่ดู่มาสู่สิ่งที่แฝงนั้น จึงรีบนำลูกแก้วออกจากมือเธอ แล้วอาการทั้งหลายก็ค่อย ๆ หายไป คุณthatchเธอเล่าให้ฟังว่า อาการแบบนี้เคยเป็นมาก่อน แล้วก็หายไปนานมากเลย จู่ ๆ ในวันนี้ก็กลับมาเป็นอีก ต่อมา ก็ได้มีการสอบเพื่อรับหลวงปู่ดู่ ปรากฎว่าสอบผ่านก็มอบให้ไปและก็ได้แนะนำวิธีการรับพลังงานและสัมผัสพลังงาน ซึ่งใช้เวลาเรียนรู้ 10 นาที เธอก็ทำได้เหมือนคนอื่น ๆ เช่นเดียวกัน
ชุดสุดท้ายที่เข้ามาคือคุณบุษราคัม มาพร้อมคู่ชีวิต เมื่อทดสอบผ่านก็ได้มอบหลวงปู่ดู่ให้ไป และแนะนำวิธีรับส่งพลังงาน ซึ่งก็เรียนรู้ได้ในเวลา 10 นาทีเช่นเดียวกัน คุณบุษราคัม แจ้งว่าเธอมีลูกแก้วเหลืออยู่ 10 ลูก แล้วกลางเดือนส.ค. 51 จะเดินทางไปวัดสะตะสะหัสสาราม ซึ่งอยู่ในประเทศลาว ซึ่งจำได้ว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีวิญญาณของทหารไทยตกค้างอยู่รอการกลับบ้านเป็นจำนวนมาก
มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน ที่มีเรื่องของที่วัดสะตะสะหัสสาราม มาให้พวกเราลูกหลานหลวงปู่ได้นำลูกแก้วจักรพรรดิไปวางเพื่อปรับภพภูมิให้กับวิญญาณทหารไทย ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ หลังจากที่อยู่ที่วัดนี้มาเป็นเวลา 180 ปี ในขณะที่ต่างคนต่างเล่าเรื่องกันอยู่ต่างคนต่างขนลุกโดยมิได้นัดหมาย นั่นแสดงว่า ภพภูมิแถวนั้นรับรู้ว่าจะนำลูกแก้วไปวางให้ จึงได้มอบลูกแก้วไปให้ 50 ลูก เพื่อการนี้วังเวงก็มีด้วย ประการฉะนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ ขอให้มีความสุข สวัสดี
แจกฟรี พระสมเด็จองค์ปฐม ถึง 10 /9/52 ปิดแล้วจ้า
ถึงวันที่ 10 กันยายน 2552
ภาพถ่ายจากคุณณัฐวุฒิ ชาวกัณหา
7.พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า
8.ตะกรุดจักรพรรดิ์
9.ผงจักรพรรดิ์ สูตรหลวงปู่ดู่ วัดสะแกและสิ่งมงคล อื่นๆอีกมากมาย
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=81544
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=78573
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=83479
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=80403
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=82004
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=93295
http://watthummuangna.com/board/showthread.php?t=1716
http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=2279
http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=2789
http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=4524
http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=5309
http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=5708
http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=8093
http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=8617