สวัสดีครับทุกท่าน
สิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ทดลองและฝึกฝนสะสมประสบการณ์ มาเป็นเวลาหลายปี
และทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์หลายปี
นำมาเสนอและแบ่งปันให้รู้กันนะครับ
ท่านใดที่เห็นว่าไม่น่าสนใจก็กรุณา ปิดกระทู้นี้นะครับ
ส่วนท่านใดที่เห็นว่า พอจะมีประโยชน์บ้างก็ขอเชิญเข้ามาได้นะครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
เริ่มจากหลายปีที่แล้วได้นำพระเครื่องจำนวนหนึ่งไปที่บูธ ของอาจารย์อาชวิน( ตาที่สาม ) ที่จตุจักร ก็เห็นมีหลายคนก็นำพระเครื่องไปให้ตรวจพลังกันมากหน้าหลายตา
พระแต่ละองค์ใช้เวลาตรวจแป๊ปเดียว อาจารย์ตาที่สาม ก็จะบอกว่า พระเครื่ององค์นี้ มีพลังด้านไหนบ้าง เช่น เมตตา แคล้วคลาด คงกระพัน โชคลาภ และมีรัศมีพลังกี่เมตร
ซึ่งพระแต่ละองค์มีไม่เหมือนกันและมีรัศมีพลังไม่เท่ากัน
ผมเห็นว่าเป็นวิชาที่น่าสนใจ ก็ทดลองฝึกแบบต่างๆ ก็ได้ผลบ้าง ตามควรแต่ก็ไม่แน่ใจกลัวว่าเป็นมโนของตัวเอง
ต่อมาก็ได้รู้จักศาสตร์แพนดูลั่ม ก็ศึกษาและฝึกฝนดู ซึ่งแพนดูลั่มนี้ในสมัยโบราณใช้ตรวจหาแหล่งน้ำ แหล่งแร่
ในปัจจุบัน บางคนนำมาตรวจหาอาการเจ็บป่วยตามจุดต่างๆของร่างกาย
บางคนนำมาเป็นอุปกรณ์เสริมในการพยากรณ์
ส่วนตัวผม นำมาเป็นอุปกรณ์ข่วยตรวจหาพลัง(ขอชมบารมี) ในพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ(ในความเห็นของผม)
ต่อมาได้อ่านหนังสือ การตรวจพลังพระเครื่อง ของอาจารย์ตาที่สาม
ได้ความรู้เพิ่มเติมจากในหนังสือว่า
*จากการตรวจสอบพลังพระเครื่องนับพันองค์
พบว่า พระเครื่ององค์จริง กับภาพถ่ายจากพระเครื่ององค์จริง
มีพลังเท่ากัน
ผมก็ลองถ่ายภาพพระเครื่องและนำมาตรวจสอบพลังด้วยแพนดูลั่ม ก็พบว่ามีพลังเหมือนกับพระเครื่ององค์จริง
และในหนังสือ อาจารย์ตาที่สาม ได้ให้คำแนะนำในการแขวนพระเครื่องหลายๆองค์ว่า
ไม่ควรแขวนพระเครื่องที่มีพลังแบบเดียวกันหลายองค์
และการแขวนพระเครื่องที่มีพลังด้านเหนียว คงกระพัน มากหลายองค์ จะทำให้คนแขวนพระชุดนี้เกิดความร้อนในตัวมากเกินไป
การแขวนพระเครื่อง ควรจะให้มีพลังครบทุกด้าน เพียงอย่างละหนึ่งให้ครบ คงกระพัน แคล้วคลาด พุทธบารมี เมตตามหานิยม โชคลาภ พลังอำนาจ
ขอเชิญทุกท่านที่มีความสนใจมาหาความรู้กันได้ครับ
บางที พระเครื่องที่ได้ตรวจพลังในกระทู้นี้ อาจมีอยู่ที่บ้านท่านก็ได้
และท่านใด ต้องการ อยากตรวจสอบพลังพระเครื่อง
หรือวัตถุมงคลที่ท่านมีอยู่ ก็เชิญได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น