จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คาถาเงินล้าน


คาถาเงินล้าน
พระคาถาเงินล้านตั้ง
นะโม ๓ จบ
สัมปะจิตฉามิ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา

(บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
(จากหนังสือสมบัติพ่อให้)
......ต่อนี้ไปก็อ่านคาถาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน และให้ทุกคนตั้งใจนึก ถึงองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คิดว่าคาถาทั้งหมดนี้จงปรากฏอยู่ในจิตของเรา ลาภผลต่างๆให้ปรากฏแก่เราตาม ที่พระองค์ทรงต้องการนะ….นึกถึงท่านนะ
สัมปจิตฉามิ คาถาสนองกลับ
นาสังสิโม คาถาพระพุทธกัสสปบทแรก
"พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ" อันนี้ตัดอุปสรรคที่ลาภจะมาแต่เขามาบอก ว่ามีผลแน่นอน คือว่า แกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่าย ๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้า ก็ทรงยืนยันบอกว่า ให้ หมดบทที่สอง
"พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม" คาถาบทนี้เป็นคาถาเงินแสนของท่านบทที่สาม
"มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม" บทนี้เป็นคาถาปลุกพระวัดพนัญเชิง
บทที่สี่ "มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาเงินล้าน
บทที่ห้า "พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
พุทธัสสะ มามีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม" เป็นคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
บทที่หก "สัมปติฉามิ" บทนี้เป็นบทเร่งรัดบทสุดท้าย
บทที่เจ็ด "เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ" พระปัจเจกพุทธเจ้า มาบอกหลวงพ่อเมื่อ พ.ย. 33 เป็นภาษาโบ ราณ
แต่เทียบกับภาษาไทยอ่านได้อย่างนี้ เป็นคาถามหาลาภ มีผลยิ่งใหญ่มาก ทั้งหมดนี้ต้องสวดเป็นบท เ
ดียวกัน บูชาเรื่อย ๆ ไป การบูชาถ้าบูชาเฉย ๆ มันเป็นเบี้ยต่อไส้
อย่าลืมนะ เวลาสวดมนต์ แล้วให้สวดคาถานี้ 9 จบเท่าเดิมนะ
และเวลาภาวนานอนภาวนาก็ได้ ว่าเรื่อย ๆ ไปจนกระทั่งหลับไปเลย
ตื่นขึ้นมา ต่อจากกรรมฐาน นอนก็ได้ ใจสบาย ๆ นะ บางทีเผลอ ๆ ฉันก็ต้องว่า ของฉันเรื่อย ๆ ไป คาถาเงินล้านนี่ มาให้เมื่อปีฝังลูกนิมิต ท่านบอกว่า งานข้างหน้าจะหนักมาก หลังจาก นี้เป็นต้นไป เงินจะใช้มากกว่า สมัยที่สร้างโบสถ์ อย่าลืมนะ…..เวลาว่าง ๆ นั่งนึกก็ได้ เดินไปก็ได้ ไม่ห้าม เลยนะให้มันติดใจอยู่อย่างนั้น ให้ถือว่า เป็นกรรมฐานไปในตัวเสร็จ เพราะ คาถาที่พระพุทธเจ้า บอก
ทุก บทก่อนจะทำต้องนึกถึงท่าน ถือว่าเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน

คาถาขายของดี


คาถาขายของดี

อันดับแรกตักน้ำใส่แก้ว แล้วนำไปไว้หน้าพระพุทธรูปที่โต๊ะหมู่บูชา แล้วชุมนุมเทวดาไหว้พระบูชาพระตามหลวงพ่อกล่าวนำ มีมนต์อะไรก็สวดไป
เมื่อสวดเสร็จแล้ว ก็อาราธนาบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย แล้วก็มาหลวงปู่ปาน แล้วมาหลวงพ่อ ฤาษีวัดท่าซุง
เสร็จแล้วเช้าตื่นมาก็กราบแก้วน้ำ ๕ ครั้ง
แล้วก็เอามาที่ห้องน้ำ แบ่งครึ่ง ครึ่งหนึ่งใส่ขันสำหรับล้างหน้า
ก่อนจะแบ่งก็ตั้งจิตให้ดี ว่านะโม ๓ จบ
แล้วก็ว่าคาถานี้อีกครั้งหนึ่ง
เท่าที่ใช้ก็ใช้คาถา มหาปุญโญ มหาลาโภ ภวันตุ เม ฯ
แล้วก็มาว่า คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
เมื่อว่าเสร็จแล้วก็บอก "อนัตตา ขายเกลี้ยง"
อีกครึ่งหนึ่งเราแบ่งมาแล้วก็ว่า คาถาวิระทะโย ไป
แล้วก็พรมตู้อะไรต่าง ๆ แล้วก็ลงท้าย "อนัตตา ขายเกลี้ยง ๆ ๆ"
แม้แต่หน้าร้านก็พรมออกไปเลย ถ้าใครเดินมาถูกน้ำมนต์ปุ๊บอยู่ไม่ได้ ต้องมาซื้อ อันนี้ได้ผลดีครับ"
การใช้พระคาถาเงินล้าน โดย หลวงพี่เล็ก
".......ดังนั้น ขอให้ทุกคนยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้ สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อมอบให้แก่เรามา โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน ขอให้ทุกคนท่องบ่นภาวนาไว้เป็นประจำ ๆ จะสร้างความคล่องตัวให้แก่เราอย่างคิดไม่ถึง ใครจะว่างมงาย ใครจะว่าเหลวไหล อาตมายืนยันว่าไม่งมงาย ไม่เหลวไหล เพราะอาตมาใช้มาเอง
มีใครบ้างที่สามารถสร้างวัด ๆ หนึ่งเสร็จได้ภายในปีเดียว โดยที่ ๒ มือเปล่า ๆ มีแต่คาถาบทเดียว จะไม่ให้ยืนยันอย่างนี้ก็ไม่ได้ แล้วขณะเดียวกันไปช่วยเขาที่อื่นไปช่วยเขาที่ไหนก็ตามขึ้นชื่อว่าการสะดุดหยุดยั้งผิดจังหวะไม่มี มีแต่ความสะดวกคล่องตัวอยู่เสมอ
ดังนั้น ขอย้ำว่าถ้าเราใช้คาถาเป็น ส่วนใหญ่ทำไมใช้ไม่เป็นใช้ไม่ถูกกัน
การใช้คาถาเป็นก็คือต้องวางกำลังใจให้เป็น
การวางกำลังใจให้เป็นก็คือตั้งใจว่า คาถานี้คือสมบัติวิเศษที่พ่อให้มา
หน้าที่เราคือรักษาไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงดีได้ ด้วยการเป็นคนที่ขยันท่องบ่นเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อย่างสม่ำเสมอและจริงจังทุกวัน
เรื่องของความสม่ำเสมอจริงจังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่มันทำ ๆ ทิ้ง ๆ กัน ในเมื่อเราตั้งใจทำถวายบูชาต่อท่านอย่างสม่ำเสมอและจริงจัง ผลพิเศษต่าง ๆ มันจะเกิดขึ้นเอง
แต่ถ้าเราทำเพื่อจะหวังผลพิเศษนั้น ตัวอยากที่บังหน้ามันจะตัดไปเกือบหมด อยากได้ไม่ใช่ความผิด แต่พออยากตั้งใจว่าต้องการอะไรแล้วลืมความอยากนั้นเสีย แล้วตั้งหน้าตั้งตาภาวนาไป นี่คือการใช้คาถาที่ถูก
การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนกัน อยากมันถึงทำ แต่ตัวอยากตัวนี้เป็นฉันทะ หลวงพ่อเรียกว่าธรรมฉันทะ คือ ความพอใจในธรรม ไม่ใช่ตัวตัณหา ตัวตัณหาเป็นการอยากได้ใคร่มีในลักษณะที่เรียกว่า ถ้าไม่ได้มาผิดศีลผิดธรรมก็ยังเอา ตัวอยาก มีอยู่ในทุกธรรมะ แต่ว่าตัวอยากนี้เป็นตัวธรรมฉันทะ คือ พอใจในการปฏิบัติ ขณะเดียวกันการปฏิบัติทุกอย่างอารมณ์อุเบกขาสำคัญที่ สุด........................................"


วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แก้ปัญหา คนรัก / เจ้านาย / เพื่อนร่วมงาน

อธิษฐานให้บุตร คนรัก หรือคนในปกครอง แม้กระทั้งเจ้านาย ละมิจฉาทิฐิ อยู่ในโอวาท เป็นคนดีขึ้น จิตใจเยือกเย็นขึ้น

หลักการ
๑. เป็นเรื่องของการใช้ พลังพระและพรหมวิหารสมาธิครับ ให้ทำตอนที่คนที่เราต้องการปรับเขาหลับอยู่ เนื่องเป็นเวลาที่เหมาะที่จะทำการปรับร่างกายและจิตใจคนได้ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เขาพักผ่อนจากอายตนะและนิวรณ์ทั้งปวง แต่จริงๆ แล้ว ตอนที่ดีกว่าคือตอนที่เขานั่งหรือทำสมาธิอยู่๒. ใช้คู่กับวิชาการครอบวิมานจะยิ่งได้ผลดียิ่งขึ้น...

วิธีการ
๑. วิชานี้ผู้ใช้ต้องฝึกสมาธิด้วย เนื่องจากต้องอาศัยกำลังสมาธิและตัวเจตนาในฝ่ายดีอันแรงกล้าเป็นตัวกำหนดรูปแบบและทิศทางของพลังงาน จากนั้นจึงขอบารมีหรือพลังงานของคุณพระโดยเฉพาะพระจักรพรรดิเป็นตัวช่วย
๒. ให้รักษาศีล 5 ให้ดีก่อนเพราะเป็นกำลังบาทฐานของสมาธิ

๓. ตื่นเช้าเมื่อตั้งสติได้ดีแล้ว หลังจากอธิษฐาน ตามบทข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอาริยะเมตตรัยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

........แล้วให้นั่งสมาธิโดยมือกำพระไว้ ภาวนาด้วยคาถาพระมหาจักรพรรดิ กุมลมหายใจสบาย ๆ โดยมีอาณาปาณะสติเป็นบาทฐานเบาๆ ภาวนาไปเรื่อย ๆ สัก 2 นาที สำคัญที่จิตสงบนะครับ อย่าให้ความสำคัญที่จำนวนเวลาของการนั่งมาก

จากนั้นอธิษฐานว่า " ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุก ๆพระองค์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยบารมีแห่งองค์พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดกล่อมเกลาปรับสภาพร่างกายและจิตใจของ....(.ชื่อ... นาม.... หรือกลุ่ม..)...ให้ดีขึ้น ขอให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจเยือกเย็น เบิกบาน ให้มีหิริ-โอตตัปปะ มีจิตใจฝักใฝ่แต่ความดี เกลียดกลัวความชั่วทั้งปวง ให้ว่านอนสอนง่าย อยู่ในโอวาท....(ตามแต่จะขอแล้วกันครับ)...หากแม้นเขาดื้อดึงเพียงใด ด้วยอำนาจกงจักรพระจักรพรรดิจงโปรดส่งสอนให้หลาบจำ "

๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัวสัพเพพุทธา

สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกันแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังผู้ที่จะปรับร่างกายและจิตใจ แต่จะเห็นว่าแสงนั้นอ่อนโยนนิ่มนวลมาก ติดตัวเขาไปทั้งวัน หากเป็นลูกให้ลูบศรีษะเบาๆด้วย เด็กจะว่าง่ายขึ้น )

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๕. ให้ทำทุกเช้า-ค่ำ คือพูดง่าย ๆต้องพยายามตื่นก่อน-นอนทีหลังแล้วให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่ม กิน ใช้ล้าง-อาบ ได้หมด จะช่วยให้ผลปรากฎเร็วขึ้น

๖. สำหรับผู้ที่คอยขัด หรือไม่เห็นด้วย เวลาเราทำบุญนั้นให้ใช้วิธี พอเวลาทำบุญก็ให้บุญกับเขา เรียกกายทิพย์เขามารับบุญ เขาเรียกว่าให้บุญในหรือให้ทางใน นานไปเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเอง หรือเราจะให้กับคนที่โกรธเรา อาฆาตพยาบาทตัวเราก็ได้ บุญเป็นของดี เราให้ใครก็ได้ ไม่ว่าเจ้านาย ลูกน้อง หรือคนที่เราจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทั้งนั้น บุญคือความสบายใจ การสร้างบุญโดยการให้ด้วยจิตใจที่เมตตา ถือเป็นการกล่อมเกลาจิตใจไปในตัว และเป็นการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย

เสริมการเงิน ด้วยแก้วจักรพรรดิ์

อธิษฐานรวมบุญ เพื่อความคล่องตัวในเรื่องการเงิน และทุก ๆเรื่อง

เป็นการเบิกบุญเก่า และบุญใหม่ที่ยังไม่ให้ผลให้ส่งผลเร็วขึ้น

หลักการตามปกติเมื่อเราสร้างกุศลใด ๆ กระแสบุญจะจับอยู่ที่ตัวผู้สร้างสักระยะหนึ่งตราบที่ยังคงทรงกำลังความชุ่มชื่นอยู่ได้นั้น
หลังจากนั้นจะไปรวมตัวรอที่ภพภูมิสุขคติ เมื่อเราสิ้นธาตุขันต์ก็จะไปเสวยสุขอยู่ในสุขคติภูมิ ตราบจนกว่าจะหมดบุญ

แต่ยังมีอีกหลายผู้ โดยเฉพาะนักสร้างบารมีที่จะตายเกิด ๆ ทันทีไม่ยอมเสวยสุขก่อน เพราะจะเสียเวลา บุญก็ยังคั่งค้างอยู่ เอามาใช้ได้ได้แค่ส่วนหนึ่ง (คงต้องออกตัวว่าอจินไตยข้อนี้ผมจะพูดแค่ส่วนจำเป็นเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างพูดได้ไม่หมด นะครับ มันมีข้อแม้ต่าง ๆมากมาย ผมขอละไว้ครับ ) หรือใครก็ตามที่ชอบบ่นว่า ทำแต่ความดี สร้างแต่ทาน แต่ทำไมยังจน ยังถูกกลั่นแกล้ง ลำบาก ไม่คล่องตัว

ครับเหมือนการปลูกต้นไม้ ปลูกเดี๋ยวนี้จะกินผลเดี๋ยวนี้เลยเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีวาระของมัน คานดุลกันทั้งบุญและบาป ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วที่ยังได้สร้างบุญไว้เป็นเสบียง เพราะการได้พบพระพุทธเจ้าแต่ละครั้งนั้นยากเย็น

ลองคิดดูสิครับ บางช่วงในอดีตมีสูญญะอสงไขย์ด้วย โอ้กรรมแท้ ตลอดอสงไขยไม่มีพระพุธเจ้ามาโปรด

.....ยิ่งคุณเกิดในยุคที่มีครูบาอาจารย์ที่หาได้ยากยิ่ง หลาย ๆองค์ อาทิ หลวงพ่อฤาษีที่ท่านเด่นด้านพาคนเข้าพระนิพพาน หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ที่ท่านเด่นด้านพาคนสร้างบารมี ยิ่งมีโอกาสได้ยากยิ่งครับ ก็เห็นจะมีแต่ในระยะยืดพระศาสนานี่กระมังแต่...เราก็มีวิชาที่จะขอเบิกบุญ รวมบุญ และเร่งบุญเอามาใช้ได้ ได้มากบ้างน้อยบ้างก็ตามเหตุ ตามปัจจัย

วิธีการ
๑. วิชานี้ให้ทรงกำลังใจแบบทานบารมี คือในใจให้เเช่มชื่นด้วยความรู้สึกว่า หากเราพอมีอะไรจะช่วยเหลือ ในบุคคลที่สมควรจะช่วยเราจะรีบช่วยโดยไม่รั้งรอ ไม่ด้วยกำลังปัจจัย ก็กำลังแรงกาย (เป็นการทอดสะพานกระแสบุญจากทานให้ย้อนกลับมา ด้วยลาภเกิดจากทาน การจะดึงผลแห่งลาภให้ได้ผลดี ต้องมีกระแสทานมาเป็นสะพานต่อเชื่อม)

๒. ตั้งจิตกำหนดภาพพระมหาจักรพรรดิ กำพระในมือขอบารมีคุณพระโดยมีบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน และมีบารมีรวมแห่งมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด (ให้ยึดถือรูปลักษณ์นี้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นรูปลักษณ์ที่ช่วยเหลือในเรื่องทางโลกได้คล่องตัวกว่า)

๓. อธิษฐานว่า" ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยบารมีแห่งองค์พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด
ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า...(นาม).....เพื่อเบิกมาใช้ ให้มีความคล่องตัวในทุก ๆเรื่อง อันใดติตขัด ขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออกจากคณโฑ ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใดคล่องตัวอยู่แล้วขอให้คล่องตัวยิ่ง ๆขึ้นไป โดยขึ้นชื่อว่าความอด ความอยาก ความยาก ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในข้าพเจ้า ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่กาลบัดเดี๋ยวนี้ ตราบจนข้าพเจ้า เข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด

และโดยเฉพาะกาลนี้ ขอให้มีความคล่องตัวในเรื่อง ...(อธิษฐานขอพิเศษเอา).....เช่น ตอนนี้ขายของไม่ดีเลยลูกขอให้ขายได้วันละ......ด้วยเถิด

๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรังสีทางโชคลาภมักจะเป็นรังสีสีทอง)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๕. ให้อธิษฐานทุกวัน เช้าตอนก่อนออกทำงาน-ก่อนนอน หากได้เวลา 20.30 น.ด้วยยิ่งดีครับ

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การครอบดวงแก้วให้แก่บ้าน ด้วยลูกแก้วจักรพรรดิ์ /พระผงจักรพรรดิ์

การอธิษฐาน ครอบดวงแก้วให้แก่บ้านเพื่อป้องกันรังสี ทั้งบ้าน
ในกรณีเกิดภาวะสงครามที่มีการใช้กัมมันตรังสี

หลักการหลวงปู่ดู่ ท่านมองการไกลมาช้านานแล้ว
ในเรื่องนี้ พระท่านหรือพระที่สร้างด้วยสูตรท่าน จะกันรังสีได้ทุกองค์ (เฉกเช่นเดียวกับพระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำในยุคหลัง ๆ) สำหรับผู้ที่คล้องบูชา

แต่หากต้องการให้ครอบคลุมทั้งบ้านประดุจมีดวงแก้วครอบบ้านทั้ง 6 ทิศ
คือซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ก็จะต้องอัญเชิญพระไว้ที่บ้าน 1 องค์

แล้วทำการอธิษฐานตามแบบอย่างข้างล่าง

วิธีการ

๑. ให้อัญเชิญ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ / พระกำลังพระจักรพรรดิ หรือพระที่สร้างด้วยสูตรหลวงปู่ดู่มาอธิษฐานทำน้ำมนต์ โดยควรเลือกเวลา 20.30 น. เพราะต้องอาศัยกำลังใหญ่

๒. ให้ตั้งจิตอธิษฐานทำน้ำมนต์โดยนำพระแช่ในภานะอันควร อาจจะเป็นขันน้ำมนต์ก็ได้ ตามร้านขายสังฆภัณฑ์ ราคาไม่แพงนักประมาณ 50-60 บาท โดยควรแช่ไว้เช่นนั้นตลอดเพื่อจะได้เป็นหัวเชื้อน้ำมนต์ สำหรับใช้ในการอื่น ๆ ได้อีก

๓. นำขันน้ำมนต์ที่แช่พระอยู่ ตั้งไว้ในที่อันควร ตั้งจิตดี ๆ นึกน้อมถึงหลวงปู่ดู่ และกล่าวคำอธิษฐานตามตัวอย่าง

ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ ข้าพเจ้าขอถวายแล้วซึ่งร่างกาย ดวงวิญญาณ ถวายแล้วซึ่งขันธ์ทั้ง ๕ กอง เพื่อบูชาคุณแก่องค์พระตถาคตทศพล ขอบารมีแห่งพระองค์นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จงสถิตอยู่เหนือศีรษะของข้าพเจ้าทุกวันคืน ทั้งยามหลับ ยามตื่น ยามยืน ยามเดิน ยามนั่ง ยามนอน ยามรู้ตัว ยามมิรู้ตัว

ขอเดชะ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดีกรรมอันใดอันข้าพเจ้า ล่วงเกินกระทำแล้วในคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า ทั้งรู้ตัวก็ดี มิรู้ตัวก็ดี โดยเจตนาก็ดี มิเจตนาก็ดี ทั้งชาตินี้ก็ดี ทั้งอดีตชาตินับสงไขยมิถ้วนก็ดี กรรมอันใดเหล่านั้นที่ข้าพเจ้าประมาทพลาดพลั้งไป

ขอคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงโปรดละซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อการปราศจากเวรภัยแก่ตัวข้า และเพื่อการสำรวมระวังในกาลต่อไป ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา เป็นทาสแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์

ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด

ขอได้โปรดแผ่บารมีมายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ ในการป้อง ขจัด ทำลาย รังสีและพลังงานอันไม่ดีทั้งปวง ที่เข้ามาในอาณาบริเวณเขตน้ำมนต์แห่งนี้ ให้เกิดเป็นปราการแก้วคุ้มครองเจ็ดชั้น ทั้ง 6 ทิศคือเบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องซ้าย เบื้องขวา เบื้องบน และเบื้องล่าง ให้กระแสเย็นแห่งน้ำมนต์นี้จงเปล่งออกไปเป็นรัสมีเรืองรอง คุ้มครองป้องกันและครอบปกคลุมบ้านทั้งหลังของข้าพเจ้านี้ ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนี้จง ร่มเย็นปลอดภัยจากันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด

๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังน้ำที่เราเราจัดเตรียมไว้ จากนั้นน้ำนั้นจะเปล่งรังสีออกทองหรือรุ้งครอบบ้านไว้ บางทีจะดูเหมือนพระอาทิตย์ทรงกลดครอบบ้านทั้งหลังเอาไว้ )พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๕. สวดมนต์ตามตำรับหลวงปู่ดู่

๖. ให้อธิษฐานซ้ำอีกครั้งตามข้อ ๓ และข้อ ๔

๗. จากนั้นให้นำน้ำไปรดรอบบ้านอีกรอบ เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกครั้ง
แล้วนำน้ำมนต์นั้นไปตั้งไว้ในที่อันควร เพื่อใช้ในการต่าง ๆอีก และคอยหมั่นเติมน้ำอย่าให้แห้ง เป็นอันเสร็จ ส่วนพระก็แช่เป็นประธานป้องกันรังสีของบ้านไว้อย่างนั้น จะเป็นการดีครับ

การปรับภพภูมิและส่งบุญให้วิญญาณ ด้วยพระผง / ลูกแก้วจักรพรรดิ์

อธิษฐานส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิ แผ่บุญ หรือป้องกันวิญญาณ

หลักการการปรับภพปรับภูมิ พลังของพระผงจักรพรรดิเป็นของสูง
อานิสงค์ครอบจักรวาล หากฉลาดในการนำไปใช้ย่อมมีประโยชน์มหาศาล

นำไปแผ่ให้ภพภูมิต่างๆ เขาไปเกิดเป็นเทวดา เขาจำเราได้ ย่อมจะช่วยเราในภายภาคหน้าเรียกว่ามาเป็นบริวารเรานั้นเอง บางครั้งเขาติดอยู่ในที่ๆหนึง โดยที่ไปไหนไม่ได้แล้วเราผ่านไปแล้วกำหนดแผ่บุญส่งวิญญาณให้เขา แทนที่เขาจะต้องติดอยู่ตรงนั้นไปอีกหลายพันหลายร้อยปีแต่เราช่วยเขา ดูสิว่ามีประโยชน์ขนาดไหน

ผีที่พวกเล่นไสย์ดำเลี้ยงไว้เหมือนกัน คิดดูสิว่าผีโดนเจ้าพวกนี้ใช้ทรมาน ไม่ต่างอะไรจากทาส บุญก็ไม่อุทิศให้ เอาแต่อาหารคาวหยาบๆให้กิน หลอกล่อผีไปวันๆ แล้วเราไปแผ่ส่งวิญญานเหล่านี้ไป คิดดูสิว่าเราช่วยพวกเขาได้มากขนาดไหน

หากเราไปแห่งหนตำบลใดหากต้องการแผ่บุญปรับภพปรับภูมิส่งวิญญาณแก้ภูมิแถวนั้น

ให้กำหนดขอพลังจากองค์พระพร้อมบริกรรมบทพระจักรพรรดิแล้วน้อมแผ่ออกไปจะเป็นการส่งวิญญาณภพภูมิแถวนั้นโดยวิชานี้ทำได้แม้ยังไม่เห็นภพภูมิก็ตามขอแค่จิตเราน้อมไปด้วยความเป็นบุญเมตตาและหวังดี(การแผ่บุญครอบบุญใช้กับคนที่เราหวังดีได้ด้วยเช่นกันหรือแม้กระทั่งกับศัตรูเราให้เขามาเป็นมิตรกับเรา)กำลังพุทธคุณของพระผงจักรพรรดิเรานำไปใช้ในการปรับภพปรับภูมิเขาให้ดียิ่งๆขึ้นได้ โดยมิได้เป็นการใช้พุทธคุณในการเบียดเบียนเขา

แต่เป็นการใช้กำลังเพื่อให้เขาโมทนาบุญ
ซึ่งเรียกว่าการปรับภพปรับภูมิและเราจะช่วยดวงวิญญานได้จำนวนมาก

การนำไปใช้ไม่ยากอารธนาองค์พระกำไว้ในมือสวดคาถาจักรพรรดิ1จบ
แล้วตามด้วยบทสัพเพ แล้วก็นึกน้อมบุญนี้ให้แก่ดวงวิญญานทั้งหลายที่เราต้องการแผ่บุญถึง

นับได้ว่าพระผงจักรพรรดิใช้เพื่อการการแผ่บุญอย่างแท้จริงสงเคราะห์สัตว์โลกอย่างแท้จริง
ลำพังกำลังของเราแต่ถ่ายเดียวยังมิอาจครอบคลุม ในการส่งวิญญานได้ทั่ว ได้ถึง และมากพอ

ขอจงโปรดขอบารมีคุณพระท่านช่วยเหลือให้ โดยมี พระกำลังพระจักรพรรดินี้เป็นสื่อกลาง(พระสูตรหลวงปู่ดู่นี้ รับรู้และคุยได้ ถามได้ทุกองค์)

วิธีการ
๑. กำพระ หรือ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ ไว้ในมือ จากนั้นโปรดกล่าวคำ อธิษฐานว่า

ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด(หรืออาจจะเป็น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค , หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ , พระศรีอาริยะเมตรัย ก็ได้ ตามจริต ด้วยเหตุผลที่ว่าการอัญเชิญพระบารมี หรือการโน้มนำพระบารมีของพระมหาโพธิสัตว์นี้จะง่ายกว่า การโน้มนำพระบารมีแห่งพระผู้เข้าพระนิพพานแล้ว เนื่องจาก บารมีท่านมหาโพธิสัตว์เหล่านี้ยังไม่รวมตัว ยังคงกระจัดกระจายอยู่ทุกอณูในโลก)

ขอได้โปรดส่งวิญญาณ ปรับภพปรับภูมิดวงวิญญาณของ......ชื่อนาม หรือกลุ่มก็ได้.....ให้สู่สุขติด้วยเถิด

๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังดวงวิญญาณที่จะปรับภพ ปรับภูมิให้

แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ดวงวิญญาณทุกดวงที่จะรับบุญ บางวิญญาณที่มีมิจฉาทิฐิ หรือมีโมหะ คือ ไม่รู้เรื่องว่าโมทนาคืออะไร ก็จะยังไม่ได้รับ เราก็ต้องสัพเพฯ หลาย ๆรอบ จนบารพระท่านครอบกายทิพย์สว่างเย็นไปหมด ช่วยโน้มนำให้วิญญาณนั้นละพยศและความโง่นั้นได้สำเร็จ)

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๓. การป้องกันวิญญาณก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะรอนแรมไปในที่แห่งใด
ผู้ที่คล้องและทรงกำลังพระจักรพรรดิ รัศมีจะสว่าง จนดวงวิญญาณพากันมาดูด้วยความสงสัยว่า คืออะไร ตรงนี้ก็ให้ถือโอกาสแผ่บุญตามหลักการข้างต้น ผูกมิตรกับวิญญาณเจ้าถิ่นไว้ วิธีนี้ได้ประโยชน์มาก

มีวิญญาณมากหลายอยู่มานับพันปีไม่มีที่ไป เราส่งวิญญาณให้เขา ต่อไปเมื่อมีวาระเขาจะกลับมาช่วยเรา วิชานี้ท่านโพธิสัตว์หรือพุทธภูมิทุกท่าน น่าจะศึกษาและปฏิบัติ เพราะเป็นวิชาสร้างบริวารอย่างหนึ่ง

แต่ขอจงโปรดอย่าวางอารมณ์ว่าจะสร้างบริวารเลย ขอวางอารมณ์ด้วยเมตตาธรรม พรหมวิหารธรรมเถิด ขอโมทนา......

๔. ขอโปรด ส่งวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรของท่านด้วย
พระสูตรของหลวงปู่ท่านสร้างไว้อย่างฉลาดมาก ท่านสอนให้ปรับภพปรับภูมิอยู่เสมอ เพราะเป็นการส่งดวงวิญญาณทั้งทั่วไปและที่มาจองเวร ป้องกันความเดือดร้อนทั้งผู้สร้างและผู้รับพระไปบูชาติดตัว

การนำไปใช้จริง

๑. ให้หมั่นส่งวิญญาณอยู่เสมอไม่ว่าจะเดินทางไปในที่แห่งไหน
โดยเฉพาะเวลาไปจ่ายตลาดในตลาดสด วิญญาณสัตว์ที่พึ่งตาย หรือที่ค้างอยู่มีมหาศาลทุก ๆวัน ตามป่าช้าหรือข้างทาง
บางทีเวลาผมเดินทางไกล หลวงตาบอกให้เปล่งกระแสบุญให้สว่างและให้ไกลมาก ๆ พร้อมทั้งอธิษฐานให้ทรงทั้งยามหลับยามตื่น เพราะเหล่าวิญญาณจะได้โมทนา บางทีก็ครอบให้เสร็จสรรพ แบบมัดมือให้เลย เดินทางไปต่างจังหวัดแต่ละทีก็เก็บได้มหาศาล ยิ่งทำบ่อยๆยิ่งคล่องครับ

ถ้าทำคล่องแล้วต่อไปเวลากำหนดแผ่ก็กำพระแล้วน้อมกำลังบุญไปได้แค่กำหนดจิตชั่วขณะโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ยังได้ขอแค่ให้ใจทรงกำลังทั้งหมดที่อาราธนามาในขณะนั้นได้ก็พอ แล้วก็กำหนดแผ่ไปได้เลย ขณะกำพระ

แต่ถ้าเป็นการอฐิษฐานใหญ่หรือการสวดมนต์ประจำวัน ก็อฐิษฐานใหญ่ตามเนื้อหาด้านบนได้เลย แล้วก็แผ่ไปทั่ว 3 โลก ไม่ว่าพรหมโลก เทวโลก มนุษยโลก ภพภูมิน้อยใหญ่ต่างๆ นรกโลก และทุกๆอบายภูมิ ผู้มีพระคุณแก่ข้าพเจ้า ครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับข้าพเจ้าทุกๆคน ญาติข้าพเจ้าทั้งหมดในโลกทิพย์ บริวารข้าพเจ้าทั้งหมด เทวดาประจำตัวข้าพเจ้าทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวรข้าพเจ้า

<--- แผ่ไปให้ภพภูมิ เหล่านี้ครับเวลาอฐิษฐานใหญ่

๒. ก่อนทานอาหารหลวงตาแนะนำให้ส่งวิญญาณด้วย ให้ทำจนเป็นนิสัย เอาแบบให้กวาดมือเหนืออาหารทีเดียวให้ส่งให้หมด แม้แต่บะหมี่หมูสับก็ให้ส่งวิญญาณด้วย หลวงตาบอกว่าเนื้อไม่ว่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะเป็นชิ้นหรือเป็นน้ำก็มีกระแสโยงถึงวิญญาณเจ้าของธาตุนั้นได้ ส่งให้เนื้อ

กระแสบุญจะส่งถึงวิญาณเอง คนที่ชอบทานมังสะวิรัติ นอกจากไม่ทานเนื้อแล้วน่าจะทรงวิชานี้ด้วยนะครับ

การนำลูกแก้วจักรพรรดิ์ / พระผงจักรพรรดิ์ ทำน้ำมนต์รักษาโรค

ใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค

หลักการพระสูตรหลวงปู่ดู่ จะมีการแช่น้ำมนต์จักรพรรดิ ก่อน 3-15 วัน
น้ำมนต์จักรพรรดินี้รักษาโรคและปรับธาตุ 4 ในร่างกายได้ดีมาก (ประสบการณ์ตรง) หากต้องการโปรดไปขอได้ที่วัดของหลวงตาม้าครับ เรื่องหวัดนกที่เรากลัวกัน แม้กระทั่งเอดส์ นอกจากจะใช้วิชาของหลวงพ่อฤาษีในการป้องกัน รักษาแล้ว ก็สามารถใช้น้ำมนต์จักรพรรดิป้องกันและรักษาได้เช่นเดียวกัน (หลวงปู่ดู่ท่านทราบล่วงหน้า เรื่องโรคระบาดต่าง ๆ และได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นกัน)

วิธีการ

๑. ให้นำ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ หรือ พระผงจักรพรรดิ์ เลี่ยมก็ได้ไม่เลี่ยมก็ได้ไม่ต่างกัน มากำสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ 7 จบ แล้ว อธิษฐานว่า

ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด (อันนี้จำเป็นต้องขอบารมีท่านโดยตรง)

ขอได้โปรด ให้น้ำใด ๆก็ตามไม่ว่าเล็กว่าน้อย หรือมากมายดังมหาสมุทร ที่ถูกแช่ในพระผงกำลังพระจักรพรรดินี้ จงมีพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เฉกเช่นเดียวกับหัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดิทุกประการ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภท

ขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิด

จึงค่อย ๆ จุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ (พระสูตรท่านชอบน้ำครับ สำหรับองค์ที่ยังไม่เลี่ยมแช่ได้เลยไม่ต้องห่วงยิ่งแช่น้ำยิ่งแกร่ง ไม่ต้องเกรงว่าพระจะร่วนแตกหักหรือ)

๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังน้ำทั้งภาชนะ และจะรู้สึกว่าน้ำนั้นจะมีกระแสเย็นชุ่มชื่น ดื่ม กินแล้วก็รู้สึกสดชื่น)

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

การนำไปใช้จริง

๑. บ้านใดที่มีถังน้ำใหญ่ หรือโอ่งมังกร แนะนำให้แช่พระไว้ตลอดอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องอธิษฐานหลายครั้งครับ ให้กินอาบ ใช้ จนเลือดจนเนื้อ เป็นกำลังพระจักรพรรดิเลยครับ ทำได้อย่างนี้ ผิวพรรณจะเยาว์ลง และยังมีผลเรื่องป้องกันรังสีด้วย

๒. จะใช้กิน อาบ ล้างอะไรก็แล้วแต่ ได้ทั้งนั้น มีคนเคยถามหลวงปู่ว่าไม่เป็นอะไรหรือ หลวงปู่ก็ว่า " น้ำมนต์ข้าเป็นของดี จะเอาไปทำอะไรก็ดีหมด "

๓. หัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดินี้ต่อได้เหมือนน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อปาน หรือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตาม้าท่านบอกว่า " แม้เพียงหยดเดียวของน้ำมนต์จัรพรรดิ เมื่อหยดลงในตุ่ม น้ำทั้งตุ่มนั้นก็จะกลายเป็นน้ำมนต์จักรพรรดิหมด " เราก็แช่พระไว้ในภาชนะใดก็ได้ตลอดเวลา แล้วคอยเติมอยู่เสมอไม่ให้แห้ง แล้วก็เอาน้ำมนต์หัวเชื้อนี้คอยเติมภาชนะต่าง ๆ เอา จะเอาไปแจกจ่ายก็ได้ครับ

๔.ไม่ต้องกลัวพระธรรมธาตุหลุดครับ พระธรรมธาตุท่านเกาะที่ผิวพระอยู่แล้ว เพียงแต่อย่าเอาอะไรไปขัดไปถูเป็นใช้ได้

การนำพระผงจักรพรรดิ์ / ลูกแก้วจักรพรรดิ์ มาร่วมปฏิบัติสมาธิ

ฝึกจิต+สมาธิ+นิมิตเริ่ม

๑. ตั้งจิตอันสบาย ในที่อันสบาย แต่จิตอันสบายนั้นสำคัญที่สุด

๒. กำพระ หรือ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ไว้ในมือ และกำหนดนึกรู้เห็นพระที่เราชอบเบาๆ ตามจริตชอบ

๓. วางลมหายใจสบาย ๆ ในกายที่เบาสบาย

๔. ภาวนาคาถาอย่างสบาย ๆ คลอไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร ทำไปสบาย ๆเท่านั้น

๕. ไม่ช้าไม่นานนิมิตสบาย ๆจะเกิดแก่ท่านเอง

ใช้งาน
๑. ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น ยามรู้ตัว ยามมิรู้ตัว
ให้ภาวนาและตั้งองค์พระตลอด เผลอก็ช่างมัน เป็นเรื่องปกติ ตั้งต้นใหม่ ทุกครั้งเมื่อมีสติ อย่าบังคับ อย่าเกร็ง ให้ทำ สบาย ๆ .......

๒. ยามจะหลับให้ภาวนาจนหลับ ยามตื่นให้รีบภาวนาจนมีสติดีแล้ว นึกถึงพระที่เราชอบ พร้อมทั้งอธิษฐานว่าข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอาริยะเมตตรัยเป็นที่สุด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9
ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

.......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

(ให้กำหนดอฐิษฐานให้ได้ทุกวัน จะกันเฝือได้ดีมาก)

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆาพะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๓. ต่อไปก็อาศัยภาวนาเบา ๆ สบาย ๆ ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น ยามรู้ตัว ยามมิรู้ตัว เฉกเช่นเดิมตลอดทั้งวัน เมื่อจะใช้งานหรือจะดูอะไรก็ ภาวนา คาถาอาราธนาพระเข้าตัว จากนั้นก็นึกถึงหลวงปู่ดู่ ขอบารมีท่านดูเอา

๔. เมื่อชินดี ได้นานพอ คล่องพอแล้ว คำอธิษฐาน " ....สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด..... " จะให้ผล ถือว่าได้วิชาแล้ว ต่อไปการใช้วิชาอื่น ๆ ก็จะตรวจสอบได้เอง ไม่ต้องงม ๆมืด ๆอีก ความคล่องตัวก็จะมีมากขึ้น เรื่องราวทางโลกทิพย์ก็จะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ

๕. ข้อเตือนใจ เมื่อห่างครูบาอาจารย์ท่านจะเฝือ
เมื่อเกิดอหังกา ท่านจะรู้เห็นผิดขอจงอยู่อย่างพอเพียง อยู่อย่างนอบน้อม แม้มิร่ำรวยเงินทอง มิร่ำรวยชื่อเสียง เราก็มีความสุขได้ เราก็เป็นคนดีได้ เราก็สร้างประโยชน์ได้ ขอโมทนา ....สาธุ......

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แนะนำ ความรู้เกี่ยวกับพระผงจักรพรรดิ/ แก้วจักรพรรดิ์


ความรู้เกี่ยวกับพระผงจักรพรรดิ / ลูกแก้วจักรพรรดิ์
พระผงจักรพรรดิ/ ลูกแก้วจักรพรรดิ์ สูตรหลวงปู่ดู่หลวงตาม้ามีพุทธคุณอย่างไร?
ลูกแก้วจักรพรรดิ์ / พระผงจักรพรรดิมีประโยชน์มากโดยเป็นพระที่ใช้ในการทำกรรมฐานและบูชาติดตัวเพื่อคุ้มครองเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและเป็นพลังงานบุญแก่ภพภูมิโดยรอบ
หลวงปู่ดู่กล่าวไว้ว่าพระรุ่นนี้ที่มีผงจักรพรรดิของท่านป้องกันนิวเคลียร์ได้(ถ้าขนาดนี้แล้วของเล็กกว่านิวเคลียเรื่องเล็กๆ)
พระรุ่นนี้เหมาะสมเป็นอย่างมากในการเจริญกรรมฐาน
หลวงปู่ดู่สมัยที่ท่านยังทรงธาตุขันธ์อยู่ท่านสร้างพระผงออกมาเพื่อให้ลูกศิษย์ได้ใช้ในการเจริญพระกรรมฐานให้ก้าวหน้าได้โดยไวโดยเป็นการใช้พลังจากองค์พระ
คาถาที่ใช้คู่ กับพระกำลังพระจักรพรรดิทุกรุ่น
(รวมทั้งพระทุกองค์ที่สร้างด้วยสูตรและวิชาหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)
พระคาถามหาจักรพรรดิ
นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณมณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะพุทธะบูชา ธัมมะบูชาสังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรังอะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิธาตุโยอะหังวันทามิ สัพพะโสพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
คาถาอาราธนาพระเข้าตัว
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลังอรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
(สวด 3 จบ หรือ 5 จบได้)
คำกำหนดอธิษฐานจิต
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ